ไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า Lee Yu-jui ลูกชาย Hsing-Wen Li ไปโวยวาย IKEA กลายเป็นหัวข้อที่ชาวเนตต่างพูดถึงกันถึงเรื่องการอบรมสั่งสอนลูกของดารา 

        เช่นเดียวกับ Yang Fan และ Julie สองสามีภรรยาก็ส่งลูกชายหญิงฝาแฝดไปเรียนเมืองนอกเช่นกัน พวกเขาบอกว่าไม่กังวลเรื่องลูกสักนิด เพราะเด็ก 2 คนรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร Julie ที่เชื่อใจลูก ๆ มาก ไม่นานมานี้ก็มาแบ่งปันวิธีการเลี้ยงลูกในรายการทีวีรายการหนึ่ง

        จากการรายงานของ Liberty Times Julie เล่าว่า เธอกับสามีเชื่อว่า “การมีส่วนร่วมในทุก ๆ ช่วงการเติบโตของลูก ๆ” สำคัญมาก แม้ว่าจะยุ่ง แต่สองสามีภรรยาก็ให้เวลากับลูกฝาแฝดไม่น้อยเลย 

        นอกจากใช้เวลาจำนวนมากในการพูดคุยกับลูกแล้ว บุคลิกภาพ และกฎเกณฑ์ในการใช้ชีวิตก็ต้องวางแผนเป็นขั้น ๆ ถึงขนาดต้องตั้งกฎขึ้นมากมาย เช่นก่อนเข้ามหาวิทยาลัย เธอใช้ระเบียบวินัยที่เข้มงวดที่สุดกับลูก แม้แต่เวลานอนเธอยังควบคุม “ตอนอนุบาลนอนทุ่มครึ่ง ประถมนอนสองทุ่มครึ่ง ม.ต้นดึกสุดสามทุ่มครึ่ง ม.ปลายสี่ทุ่มต้องเข้านอน” พวกเขาไม่ประมาทเกี่ยวกับบุคลิกและคุณภาพชีวิตของลูก

        ที่ยอดเยี่ยมก็คือ เพราะว่าให้เวลากับลูกเยอะมาก ลูก ๆ ก็เลยวางใจพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ในใจ Julie เล่าอย่างภาคภูมิใจ “ต่อหน้าลูก ฉันเป็นคนที่เด็ก ๆ สามารถพูดคุยสิ่งต่าง ๆ ด้วยได้” ความสัมพันธ์ระหว่าง Julie กับลูกเหมือนเพื่อน แม้ว่าลูกทำผิดเธอก็ไม่กังวล เพราะเธอใช้เวลามากมายปฏิสัมพันธ์ พูดคุยกับลูก ทุก ๆ วินาทีล้วนเป็นโอกาสในการอบรมสั่งสอน ระหว่างที่ให้ลูกพูดสิ่งที่พวกเขาคิดเธอก็ตั้งใจฟังอย่างอดทน แนะนำพวกเขา สร้างค่านิยมที่ดีให้ตั้งแต่อายุยังน้อย

        พอลูก ๆ เข้ามหาวิทยาลับ Julie ถึงเปลี่ยนวิธีการสอนลูก เธอ “วางมืออย่างเบ็ดเสร็จ” ปล่อยให้ลูก ๆ ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศอย่างอิสระ Julie บอกว่า ที่สามารถวางใจส่งลูก ๆ ไปเมืองนอกก็เพราะ “ถูกสร้างนิสัยบุคลิกเอาไว้แล้ว เด็ก ๆ ล้วนรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร” เพราะว่าลูก ๆ เรียนโรงเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เล็ก ๆ ทำให้บุคลิกภาพนิสัยค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ เรียกร้องกับตัวเองสูงมาก และคุ้นเคยกับวิธีการคิดแบบต่างชาติ เพราะงั้นก็เคยไม่เป็นห่วงว่าพวกเขาจะไม่เคยชินกับชีวิตเมืองนอก

        แต่ Julie ก็สารภาพตรง ๆ ว่า ตอนที่เพิ่งส่งลูก ๆ ไปเมืองนอก ก็เป็นกังวลเพราะพวกเขาต้องอยู่ห่างกับแม่ จะทำให้ความรักจืดจาง เพราะงั้นไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน เธอก็ยังหาเวลาวิดีโอคอลคุยกับลูกเพื่อไม่ให้ห่างหายไป และเพราะเหตุนี้ทำให้ถึงตอนนี้เธอกับลูกก็ยังสนิทกันอย่างมาก

        Julie เล่าอย่างภูมิใจ เด็ก ๆ เองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง “ปีนี้ลูกชายคนโตจบมหาวิทยาลัยแคนาดา และทำงานด้านการธนาคาร ส่วนลูกสาวกำลังเข้าสู่วงการบันเทิง และมุ่งเน้นไปที่ดนตรีและละครเวที” ที่ทำให้ Julie ซาบซึ้งก็คือแม้ว่าปัจจุบันนี้ลูก ๆ จะยุ่งเรื่องงานของตัวเอง แต่เพราะสนิทกันมากเธอก็ยังเป็นคนที่ลูก ๆ ปรึกษาเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตอยู่ “ฉันน่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของลูก ๆ เมื่อต้องการพูด ต้องการระบายอะไรลูกก็จะคุยกับฉัน”

        อีกอย่างที่ต้องพูดถึงคือ Angelina ลูกสาววัย 20 ของ Julie ปีนี้ได้เซ็นต์สัญญาไปกับผู้จัดการ Summer การได้เห็นลูกสาวมุ่งมั่นเรื่องดนตรี พยายามไล่ตามความฝัน ทำให้เธอยินดีมาก แต่ที่ทำให้ทุกคนกังวลก็คือ “วงการบันเทิงเป็นเหมือนถังย้อมสีขนาดใหญ่ เธอจะกลัวว่าถูกสาวจะได้รับผลการทบที่ไม่ดีหรือไม่” 

        Julie บอกว่าไม่กังวลสักนิดเดียว เพราะลูกทั้งสองคนของเธอไม่เพียงแน่วแน่ แต่ยังมองเห็นเส้นทางในอนาคตของตัวเองอย่างชัดเจน เพราะงั้นจึงเชื่อมั่นในตัวพวกเขา เชื่อว่าลูก ๆ จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง

        ทั้งควมคุมชีวิตเด็ก ๆ อย่างเข้มงวด ทั้งเป็นเพื่อนที่ดีของลูก ทำได้ขนาดนี้ไม่ง่ายจริง ๆ

แปลและเรียบเรียงโดย สารพันคนท้อง