กลายเป็นเรื่องราวสุดดราม่าในโลกออนไลน์ หลัง ลูกของไลฟ์โค้ชชื่อดังไม่อยากเรียนหนังสือ เลยทำการสอนบทเรียนให้ลูก ด้วยการไปเก็บขยะขาย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา

    ครูชัย หรือ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ได้บอกว่า ลูกชายของตนนั้นมีปัญหาเรื่องการเรียนออนไลน์ เพราะเข้าเรียนสาย การบ้านก็ส่งไม่ทัน ที่ผ่านมาไม่เคยกดดันหรือบังคับลูก ขอแค่ตั้งใจเรียน ทำการบ้านส่ง เกรดจะออกมาเท่าไหร่ก็ไม่เคยว่าอะไร แต่สุดท้ายลูกกลับบอกว่าไม่อยากเรียนหนังสือ ตนเลยคิดว่า หากเป็นแบบนี้จะส่งผลต่ออนาคตลูกได้ เลยหาบทเรียนครั้งสำคัญให้กับลูก 

    ครูชัยที่ได้คุยกับลูกก็บอกว่า งั้นจะให้ลองไปเก็บขยะขายในช่วงวันหยุด จะได้รู้ว่าระหว่างการทำงานขยะขายหรือเรียนหนังสือ อันไหนเป็นเรื่องที่ยากกว่ากัน... ซึ่งพอถึงวันก็ได้พาไปเก็บขยะจริง ๆ และไม่ให้กินข้าวด้วย เพราะต้องเอาเงินที่ได้มาซื้อข้าวกินเอง ถ้าไม่มีเงินก็ยังกินข้าวไม่ได้

    ลูกชายที่ไม่อยากไปก็เลยอ้อนวอนขอโอกาส แต่ครูชัยก็มองว่า แค่บอกแค่สอนด้วยคำพูดไม่พอ ต้องให้ลงมือทำจริง ๆ แล้วก็พาไปเก็บขยะตามตลาด 2-3 แห่งใช้เวลาอยู่เป็นชั่วโมงได้เงินมาแค่ 2 บาท จนลูกเริ่มหมดกำลังใจ จากนั้นก็พาไปเก็บที่จตุจักรอีก 5 ชั่วโมง ร้านของเก่าก็ใจดีเลยให้มา 20 บาท สรุปว่าครึ่งวันได้เงินมาแค่ 22 บาท

    พอได้เงินมาแล้วครูชัยก็บอกว่า ลูกของตนนั้นก็เอาเงินทั้งหมดเพื่อซื้ออาหารมากินหมดเลย เพราะว่าทั้งวันทำงานหาเงินได้แค่นี้... ซึ่งก็ได้ถามลูกอีกครั้งว่า ระหว่างเรียนหนังสือกับทำงานอะไรเหนื่อยกว่ากัน ซึ่งลูกบอกว่า ทำงานทั้งเหนื่อยทั้งหิว

    ครูชัยก็ได้สอนลูกอีกว่า ถ้าลูกไม่อยากเรียนและจบแค่ตอนนี้ ก็อาจจะต้องไปเก็บขยะขายทั้งชีวิต ไม่ใช่ว่าอาชีพนี้ไม่ดี แต่ถ้าลูกเรียนสูงขึ้นลูกก็เลือกทำงานที่ชอบได้ มีเงินเยอะขึ้น มีเวลามากขึ้น ถ้าไม่อยากใช้ชีวิตกับการทำงานหนักทั้งวันแบบนี้ก็ต้องตั้งใจเรียน ต้องทำบทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด

    แน่นอนว่า มีคนเข้ามาแสดงความชื่นชมการสอนลูกของครูชัยเป็นอย่างมาก บางคนก็บอกว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่น้องจะได้จดจำ และรู้จักตั้งใจเรียน และคุณพ่อก็ใจแข็งมาก ที่ได้ให้บทเรียนที่มีค่าที่สุดครั้งนี้กับลูกตนเองแม้จะอยู่แค่ Grade 3 หรือ ป.3 ก็ตาม

    แต่เรื่องนี้ก็มีกระแสด้านลบอยู่ไม่น้อยเช่นกัน บางคนก็บอกว่า พ่อมัวแต่ทำงานจนไม่รู้ว่า การเรียนออนไลน์ของเด็กตอนนี้หนักมาก เรียนกันไม่พัก การบ้านกองเป็นภูเขา นั่งมองหน้าจออยู่ในห้องแคบ ๆ ทั้งวัน บางคนเป็นซึมเศร้า บางคนเครียด ทั้งที่อายุแค่นี้กลับไม่ได้เจอเพื่อน ไม่ได้ออกไปเล่นหรือทำกิจกรรมผ่อนคลายเลยด้วยซ้ำ

    บางคนก็บอกว่า คุณพ่อไม่ฟังเหตุผลลูกเลยด้วยซ้ำว่าทำไมถึงไม่อยากเรียน พอลูกบอกว่า ไม่ พ่อก็คิดไปเองแล้วว่าลูกไม่อยากเรียนหนังสือ เลยหางานให้ทำ จากนั้นทัวร์ก็ลงอย่างต่อเนื่อง จนครูชัยต้องปิดคอมเมนต์.. แล้วคุณล่ะมองเรื่องนี้หรือคิดเห็นยังไงบ้าง...

โพสต์ต้นฉบับ ฝั่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับการสอนลูกแบบนี้

ที่มา : kapook, chaiyapon