"สรพงษ์" เจอ "หนุ่ม กรรชัย" บี้กลางรายการโหนกระแส เสียงอ่อนบอกที่พูดแค่ท้าทายเฉยๆ

คอมเมนต์:

พี่ก็ดูสภาพหนูสิ! #หนุ่มกรรชัย ขยี้ #ทีน่า เจ้าของร้านแบรนด์เนมกลางรายการ #โหนกระแส จนเสียงอ่อน ไปไม่ถูก ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น #สรพงษ์ แล้ว

        เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ขณะนี้สำหรับประเด็นของ "กระเป๋าแอร์เมสปลอม" ระหว่างเจ้าของกระเป๋า "ชมพู่" กับเจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนม "ทีน่า"

        [อ่านข่าว : เจ้าของร้าน เขียนกระเป๋าปลอม ส่งแอร์เมสไปพิสูจน์ที่ฝรั่งเศส อ้างถ้าของแท้พร้อมควักเงินให้ 2 ล้าน]

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเดิมพันไว้ว่า ถ้าหากกระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของจริงจะจ่าย 2 ล้าน พร้อมลั่นจะเลิกเป็นกะเทย ก่อนที่ผลการตรวจจะออกมาว่า "กระเป๋าเป็นของจริง" 

 

Sponsored Ad

 

        [อ่านข่าว : สาวเจ้าของกระเป๋า วัย 24 ย้ำรับคำขอโทษเป็นเงิน 2 ล้าน เปิดใจถึง เจ้าของร้านสาวสองหลังโดนทัวร์ลง]

        ทำให้คนจับตาดูว่าทีน่าจะทำอย่างไรต่อ โดยล่าสุด "หนุ่ม กรรชัย" ผู้ดำเนินรายการโหนกระแส ก็ได้มีการเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยในรายการพร้อมหน้าพร้อมตากันครั้งแรก โดยมีตอนหนึ่งที่ทีน่าได้บอกว่า สาเหตุที่คิดว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของปลอมเป็นเพราะยาแนวปลิ้น

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้นทางด้าน หนุ่ม กรรชัย ถามเรื่องสาเหตุที่พูดเรื่องเงิน 2 ล้านบาททำไม ทางทีน่าก็ได้ตอบว่า "เป็นการพูดสไตล์สาวประเภทสอง 3 นาที 4 อารมณ์ เริ่ด ๆ เชิด ๆ อารมณ์อย่างนั้นแหละค่ะ เป็นการพูดแบบคะนองปากขำ ๆ เท่านั้น"

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้น หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ส่วนกลับไปว่า "แต่คุณรู้ไหมว่า คำพูดมันคือนายคน แต่คู่กรณีไม่ขำนะ"

        และหลังจากนั้น หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ถามทีน่ากลับไปตรง ๆ ว่า "แล้วจะเลิกเป็นสาวประเภทสองได้หรือเปล่า" ทีน่าตอบว่า "มันเปลี่ยนไม่ได้แล้วค่ะพี่ ใครจะเปลี่ยนได้" 

 

Sponsored Ad

 

        ดังนั้น หนุ่ม กรรชัย จึงถามกลับว่า "เข้าใจว่าเปลี่ยนไม่ได้ แต่คุณจะเปลี่ยนชื่อเป็นสรพงษ์ได้ไหม" 

 

Sponsored Ad

 

        ทางทีน่าก็มีท่าทีที่เริ่มอยู่ไม่นิ่งและพยายามจะบอกว่า "แล้วมันเข้ากับหนูเหรอคะ" 

        จน หนุ่ม กรรชัย ไล่บี้จนทีน่าเสียงอ่อนก่อนจะยอมกล่าวออกมาว่า "เปลี่ยนได้ค่ะ ยินดี เดี๋ยวจะเอาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อให้ดู"

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : เฟซบุ๊ก โหนกระแส

บทความที่คุณอาจสนใจ