อดีตแม่บ้าน เปิดธุรกิจเสื้อผ้าญี่ปุ่น "มือสอง" ขายส่งต้นทุนตัวละ 35 บาท ฟันกำไร 65,000 บาท

คอมเมนต์:

ลงทุนน้อย สร้างรายได้หลักล้าน

    ในยุคสมัยนี้ ตลาดสินค้ามือสองจากประเทศญี่ปุ่นในเมืองไทย มีมูลค่ามากถึงหลักแสนหลักล้านบาท "คุณยุภาวรรณ อัจฉราพรเพ็ญ" หรือ คุณเอมมี่ เจ้าของธุรกิจ Emmy Japanshop เปิดเผยผ่านรายการ SME Take Off ว่า เธอเริ่มต้นธุรกิจด้วยการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองจากประเทศญี่ปุ่นมาขายให้กับคนไทย โดยใช้เงินลงทุนเพียง 6,000 บาท และถือเป็นก้าวแรกของการขายสินค้ามือสอง

เงินลงทุนก้อนแรก...

 

Sponsored Ad

 

    ย้อนกลับไปเมื่อ 9-10 ปีที่ผ่านมา เราทำธุรกิจโดยที่ไม่ใช้เงินลงทุนเลย เพราะเราเริ่มจากพรีออเดอร์สินค้า, จากนั้นก็เริ่มมาขายกระเป๋าแบรนด์เนม ที่ใช้เงินลงทุนก้อนแรก 12,000 เยน (ประมาณ 3,600) คือเราซื้อกระเป๋ามือสองยี่ห้อหนึ่งมา ก็คือ Louis Vuitton ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนที่ใช้ของแบรนด์เนม แต่ตอนนั้นเราอยู่ที่ญี่ปุ่น ใครๆ ก็จะพูดว่าที่นี่มันถูกนะ เราก็เลยลองดู ปรากฏว่าเราขายได้ ภายในเวลาแค่ 5 นาที ซึ่งถามว่าได้กำไรเท่าไหร่ ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าต้องขายเท่าไหร่เราก็บอกลูกค้าว่า เราซื้อมาเท่านี้นะ คุณให้ได้เท่าไหร่ แต่วิธีนี้ไม่แนะนำให้ทำนะคะ แต่เรามือใหม่จริงๆ ก็เลยบอกไปตรงๆ จากนั้นค่อยๆ ใช้ประสบการณ์ในการขายของได้เรียนรู้มากขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    Emmy Japanshop มีโกดังสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่เปิดให้พ่อค้าแม่ค้ารวมไปถึงคนรักสินค้ามือสอง ไปเลือกซื้อสินค้าเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อสร้างโอกาสให้ทุกคนมีอาชีพที่เท่าเทียมกัน และเนื่องจากตอนนี้สินค้ามือสองจากประเทศญี่ปุ่น ได้รับความนิยมทั้งโลกออนไลน์ และออฟไลน์ จึงทำให้มีบรรดาพ่อค้าแม่ขายหลั่งไหลเข้ามาเลือกซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่ง Business Model ของการทำธุรกิจของ Emmy Japanshop คือการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นเป็นตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีลูกค้าประจำรอรับสินค้าอยู่แล้ว

 

Sponsored Ad

 

    คุณเอมมี่ เล่าว่า “โกดังของเรา เป็นสินค้ามือสองที่ส่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์ให้กับพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงผู้ค้าปลีกที่อาจจะทุนน้อย ไม่สามารถซื้อแบบคอนเทนเนอร์ได้ รายเล็กๆ ก็มารับซื้อไปขายต่อกันได้ เสื้อผ้าเราขายที่ตัวละ 20 บาท แต่ความพิเศษคือ จะโกดังเราเปิดแค่เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น”


ทำไมพ่อค้าแม่ค้าต้องมา?

    การซื้อสินค้ารูปแบบนี้เราเปิดโอกาสให้คนตัวเล็ก รายเล็กๆ ที่ทุนไม่มากก็สามารถสร้างอาชีพได้ เลือกเป็นชิ้นๆ ได้ ครั้งละ 5-6 ตันโดยที่ไม่มีข้อจำกัด ส่วนรายใหญ่ที่ซื้อเป็นคอนเทนเนอร์เราสั่งตรงจากญี่ปุ่นเดินทางโดยทางเรือ ซึ่งเราทำถูกต้องทุกๆ ขั้นตอน ลูกค้าสบายใจและมั่นใจได้

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากสินค้าพวกเสื้อผ้า ใน 1 ตู้ จะเหมือนคุณกำลังขุดสมบัติ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าข้างในมีอะไรบ้าง แต่จะรู้เป็นค่าเฉลี่ย เช่นมีเฟอร์นิเจอร์เท่าไหร่ เสื้อผ้าเท่าไหร่ จานชามเท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งก็จะมีทั้งตู้เสื้อผ้า, ของจิปาถะ, จักรยาน, รองเท้า, สินค้าทั่วๆ ไปที่มาจากญี่ปุ่นเลย สินค้าที่ได้รับความนิยมจะเป็นพวกจักรยาน ราคาหลักพัน มีดีไซน์แปลกๆ ขายต่อได้ราคา บางคนซื้อหลักพัน เอาไปขายได้เป็นหมื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบสินค้าวินเทจ ก็จะกลายเป็นของที่มีมูลค่ามาก สินค้าเราค่อนข้างหลากหลาย คุณซื้อไปตัวละ 20 บาทกลับบ้านไปโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก แค่นี้ก็มีกำไร มีรายได้เพิ่มขึ้นมาแล้วสินค้าชนิดไหนที่คนไทยกำลังนิยมมากที่สุด เราก็จะนำมาขายที่เมืองไทย ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชื่นชอบการช้อปสินค้ามือสอง

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้เสื้อผ้ามือสองที่นำเข้ามาขายนั้น เป็นมาตรฐานญี่ปุ่น เสื้อผ้าทุกชิ้นจะถูกคัดคุณภาพ และทำความสะอาดมาจากโรงงาน ผ่านกระบวนการซัก ฆ่าเชื้อโรค รีดเรียบ บรรจุลงในถุง พร้อมติดบาร์โค้ด เหมือนกับเสื้อผ้าใหม่ หลังจากนั้นนำแพ็กลงในกล่อง พร้อมจำหน่ายและจัดส่งให้กับลูกค้า

    เสื้อผ้ามือสองจากญี่ปุ่นของคุณเอ็มมี่ ผ่านการทำความสะอาด บรรจุในถุง ใส่ลงกล่อง แพ็กมาอย่างดี เจ้าของ บอกว่า ไม่ใช่งานกระสอบเฉกเช่นตลาดทั่วไป ขายในราคาตัวละ 35 บาท ลูกค้าต้องซื้อขั้นต่ำ 1,000 ตัว คละแบบ คละไซซ์ ที่สำคัญคือ ทุกชิ้นจะไม่มีแบบที่ซ้ำกันเลย ทำให้ลูกค้าที่ซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ สามารถทำราคาได้ ไม่ต้องกลัวว่าแบบจะไปซ้ำกับคนอื่น

 

Sponsored Ad

 

    “เสื้อผ้าในจำนวน 1,000 ชิ้น จะถูกคละแบบ คละไซซ์ คละยี่ห้อไม่ซ้ำกันเลย 80 เปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าผู้หญิง อาทิ เสื้อกันหนาว ชุดแซ็ก กางเกง กระโปรง เสื้อยืด เสื้อโค้ต นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพราะถ้ารับเสื้อโหลไปขาย ก็จะได้แบบที่ซ้ำกัน แนะนำให้ขายทางออนไลน์ ขายแบบไลฟ์สด รูปแบบที่ได้กำไรมากที่สุด ก็คือการเปิดประมูล โดยส่วนใหญ่จะเปิดกันที่ 100 บาท”

    เจ้าของร้าน อธิบายต่อว่า เสื้อผ้า 1,000 ตัว ต้นทุนตัวละ 35 บาท = 35,000 บาท หากรับไปขายต่อตัวละ 100 บาท จะมีรายได้ 100,000 บาท หักทุน 35,000 เหลือกำไร 65,000 บาท

Sponsored Ad

    กรณีเสื้อกันหนาวเนื้อผ้าดี คุณเอ็มมี่ แนะนำว่า ให้ขายราคาอย่างน้อย 200-250 บาท หรือนำไปประมูลขายจะกำไรเพิ่มขึ้น อาชีพนี้แม่บ้านที่อยู่บ้านก็สามารถทำได้ หรือ ขายตามสำนักงานออฟฟิศ ตลาดนัด

    ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าของคุณเอ็มมี่ เป็นแม่ค้าออนไลน์ที่มองหาอาชีพขายเสื้อผ้ามือสอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปคัด ไปทำความสะอาด ซื้อไปขายได้เลย และลูกค้าที่ชอบเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆ

    คุณเอมมี่บอกด้วยว่า วันนี้เราอาจจะยังไม่กล้าพูดว่าเราประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง แต่ที่ผ่านมาถือว่าเรามีการตอบรับดี ...ดีมาก 

    สนใจติดต่อ เฟซบุ๊กแฟนเพจ : ZOZO by EMMY โทรศัพท์ (099) 109-9595

ชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ที่มา : สารพันคนท้อง, sentangsedtee

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ