เปิดใจ "เปิ้ล นาคร" เจอดราม่าอวดรวยติดหรู-ย้ายลูกเรียนอินเตอร์ "ค่าเทอม" ปีละล้าน

คอมเมนต์:

"เราไม่ฉลาดเราให้ความรู้เขาไม่ได้ จ่ายแพงแค่ไหนเราก็ยอม... "

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

        เปิ้ล นาคร - จูน กษมา เคลียร์ดราม่าย้ายโรงเรียนลูก เพราะติดหรู เผยค่าเทอมลูก ๆ คนละ 1 ล้านบาท ย้ำอะไรที่ทำให้ลูกได้ พ่อแม่ก็พร้อมทำให้หมด เมินคนมองฟอกเงิน

          เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา สำหรับครอบครัวศิลาชัย ที่วันนี้ เปิ้ล นาคร นำทีม จูน ภรรยา และลูก ๆ น้องออกัส น้องออก้า มาเผยวีรกรรมสุดแสบของครอบครัว ทั้งโดนดราม่าเรื่องลูก ปัญหาเรื่องธุรกิจ ... เราไปดูกันเลยค่ะ

 

Sponsored Ad

 

เรื่องย้ายโรงเรียนทำไมต้องดราม่าด้วย ?

          เปิ้ล : ไม่แปลกใจหรอก ในโลกโซเชียลทุกคนมีความเห็นหลาย ๆ มุม มองมุมบวกโลกสวยเอาใจครอบครัวเราอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ การที่เราจะย้ายไปไหน ดีก็ต้องมีไม่ดี ขนาดเปิ้ลบวชให้แม่ยังมี Unlike คน Like เป็นแสน Unlike 30 ก็มา คงไม่เห็นด้วยกับการบวช

คนดราม่าว่าย้ายโรงเรียนเพื่ออัปเกรดความไฮโซของลูก ๆ เพราะโรงเรียนเดิมอยู่หน้าบ้าน ?

 

Sponsored Ad

 

          เปิ้ล : คือจริง ๆ โรงเรียนหน้าบ้านเป็นโรงเรียนนานาชาติที่เป็นระบบอเมริกัน โดยส่วนตัวเราชอบวัฒนธรรมแบบอังกฤษ เพราะเราเคยไปเรียนที่อังกฤษ เราว่าวัฒนธรรมเขาดี

เหตุผลที่เกิดดราม่าอาจจะเพราะว่าย้ายไปแล้วค่าเทอมโรงเรียนลูกปีนึงต่อคน 1 ล้านบาท ?

 

Sponsored Ad

 

          เปิ้ล : ผมว่าเรื่องค่าเทอมแพงมันก็แพง แต่ผมว่าถ้าเรายังไม่ตายแล้วเราสามารถหาได้ อะไรที่ให้ลูกทั้งหมดได้ผมก็ให้ลูกหมด แล้วอีกอย่างมันเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง จริง ๆ แล้วแต่ละโรงเรียนก็สอนให้เด็กมีความรู้ สอนให้เด็กเป็นเด็กดีเหมือนกันหมด เราอยากให้ลูกพูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าเรา

จริง ๆ พ่อแม่ทุกคนก็มีแนวทางอยากให้ลูกไปข้างหน้าแตกต่างกัน ?

 

Sponsored Ad

 

          จูน : จูนคิดกับพี่เปิ้ลว่าสิ่งที่เราหาให้ได้ก็คือความรู้ อยากกิน อยากเที่ยวอะไรทำให้ได้หมด แต่เรื่องการศึกษา จูนเรียนไม่เก่ง พี่เปิ้ลก็เรียนไม่เก่ง พอเราเริ่มมีอายุ เราเริ่มรู้แล้วว่าการมีการศึกษาจะทำให้ลูกเราเก่ง ทำให้ลูกเราอยู่ในสังคมที่ดี แล้วเขาเอาไปต่อยอดตัวเขาเองได้ อันนี้จูนยอมแลก ให้ทำงานเหนื่อยแค่ไหนเพื่อเก็บตังค์ค่าเล่าเรียนจูนว่าไม่น่าผิดนะ

          เปิ้ล : จริง ๆ แล้วที่เขาเขินเวลามีผู้ใหญ่ให้พูดภาษาอังกฤษ เป็นเพราะว่าครอบครัวเราพูดภาษาไทย เพราะเขาอยู่ในโรงเรียน 6-8 ชั่วโมง เขาต้องพูดภาษาอังกฤษอยู่แล้ว พอกลับมาบ้านก็อยากให้พูดไทย ซึมซับวัฒนธรรมไทย ทุกอย่างที่เป็นไทยให้ได้มากที่สุด ถ้าถามว่าดัดจริตเอาไปเรียนอังกฤษทำไม ซึ่งอีกหน่อยเชื่อมั้ยโลกจะไม่กลมนะ โลกจะแบนเท่ากันหมด เพราะฉะนั้นทุกอย่างการเดินทางเข้าหากัน การเชื่อมเข้าหากันในโลกข้างหน้ามันจะเท่ากันหมด ภาษาที่เป็นภาษากลางคือภาษาอังกฤษ ภาษาจีน นี่คือสิ่งที่เราควรจะให้เขาให้ได้

 

Sponsored Ad

 

ลูก 4 คน คนละ 1 ล้านบาท ปีนึง 4 ล้านบาท มีคนเมาท์ว่าเป็นครอบครัวฟอกเงินหรือเปล่า ?

          เปิ้ล : จริง ๆ จะหาได้มากได้น้อย เสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายคือสิ่งที่ดีที่สุด อีกหน่อยในอนาคตเราอาจจะเติบโตเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงนั้นการปูพื้นฐานที่ดีคือการเสียภาษีให้ถูกต้องที่สุด จะได้ไม่ต้องมีคดีถึงลูกเราด้วย

 

Sponsored Ad

 

พูดถึงความสามารถของน้องออก้า ตอนนี้เป็นนักกีฬาเยาวชนแล้ว ?

          เปิ้ล : เขาขี่เจ็ตสกีตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ตอนนี้เขากำลังเป็นตัวแทนของ กทม. ในการแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติในต้นปีหน้า ตอนนี้ยังฝึกซ้อมอยู่ยังไม่เก่ง อายุน้อยที่สุดแล้วในประเทศไทยที่เข้าไปแข่งระดับชาติ

ภูมิใจแค่ไหน ?

          เปิ้ล : ภูมิใจแค่ไหนยังไม่ทราบ เพราะผลมันยังไม่แข่ง

ตอนที่ลูกลงแข่งร้องไห้ เพราะอะไร ?

Sponsored Ad

          ออก้า : ไม่อยากแข่ง

          เปิ้ล : เพราะอะไรรู้มั้ย ตอนจะลงแข่งเขาประกาศชื่อแล้วคนกรี๊ดกันทั้งสนาม ออก้ากำลังจะลงปุ๊บ ถอดถุงมือวิ่งเข้ามากอดขา

เห็นว่าต้องแข่งกับเด็กอายุ 12 ?

          เปิ้ล : ตอนนี้เขา 7 จะ 8 ขวบ เขาต้องไปแข่งกับเด็กอายุ 12 ก็บอกให้เขาแข่งไปเถอะ เพราะยังไงก็ไม่ชนะอยู่แล้ว แต่ให้แข่งเอาประสบการณ์

ไปอยู่กับความเร็วแบบนี้ไม่กลัวเหรอ ?

          จูน : ตั้งแต่ออก้าเริ่มขี่เจ็ตสกี จูนก็เริ่มมีปัญหากับพี่เปิ้ลเหมือนกัน เรารู้ว่าเวลาพี่เปิ้ลตกมันเป็นยังไง สภาพที่จูนเห็นคนอื่นตลอดคือหัวกระแทกเรือบ้าง มันอันตราย เขาก็ให้เหตุผลว่าออก้าก็ลูกเขาเหมือนกัน เขาก็ไม่ปล่อยให้ไปเจ็บไปตายหรอก หรือจะให้ชวนไปเล่นยามั้ย

          เปิ้ล : แรก ๆ ก็มีออก้าขี่ออกไปกลางทะเลแล้วเจอคลื่น ตัวตีลังกาลอยหล่นลงมาฟาดน้ำ เปิ้ลกับจูนขี่ตามอีกคัน เห็นออก้านอนหงาย เลือดออกที่ปาก พี่เปิ้ลก็เข้าไปหัวเราะ ออก้าเห็นพ่อหัวเราะก็หัวเราะด้วย ก็ไต่ขึ้นเรือเอาน้ำล้างเลือดแล้วก็ขี่ไปต่อ

ออก้าตอนตกเรือเจ็บไหม ?

          ออก้า : เจ็บ

คาแรกเตอร์ลูก 4 คนต่างกันยังไงบ้าง ?

          เปิ้ล : ออกัสจะเป็นเหมือนผู้นำ เป็นพี่สาวที่เป็นผู้นำ พี่เปิ้ลชอบเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้นำ เราก็เลยรู้สึกว่าลูกคนแรกของเราต้องเป็นผู้หญิง พี่ออก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ส่วนออก้าก็จะเป็นนักรบ บ้าพลัง จะเป็นสายนักกีฬา ชอบเล่นอะไรแรง ๆ ออกู๊ดก็จะนึกถึงโนบิตะ เอะอะร้องไห้ ส่วนออเกรซ

          ออกัส : เป็นเหมือนไจโกะ แสบ ๆ ชอบแย่งของ ชอบแกล้งคน


กิจกรรมของบ้านนี้ชอบอาบน้ำด้วยกันทั้งบ้านจริงไหม ?

          เปิ้ล : พ่อแม่ลูก อาบกัน 6 คน ชวนพี่เลี้ยงแล้วแต่ไม่มา (หัวเราะ)

ทำไมชอบเปิดคลิปสยองให้ลูกดู คลิปแบบไหน ?

          จูน : จูนเคยใช้วิธีปกติที่บ้านใช้กันคือสอนกัน แบบเวลารถถอยต้องรอตรงนี้ เด็กเขาไม่เข้าใจ เขา 2-3 ขวบ เขานึกไม่ออก เราก็เลยเอาคลิปจริงเนี่ยแหละ ที่มีอุบัติเหตุเห็น ๆ กัน ชนจริง ๆ เหยียบจริง ๆ ตายจริง ๆ ให้เขาดู อย่างคลิปเด็กตกบันไดเลื่อน ลิฟต์หนีบมือ มือขาด ให้เขาดูให้เห็น ให้จำเลย

          เปิ้ล : คือเด็กต้องได้รับการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ บางทีพ่อแม่อย่าทำนั่น อย่าทำนี่ นึกไม่ออก หรือทุกวันนี้เราส่งลูกไปอบรมเวลาไฟไหม้บ้านต้องทำยังไง เวลาไฟไหม้ถ้าเราต้องกระโดดจากที่สูง ต้องกระโดดยังไง หรือเวลามีควันขึ้นมาเราต้องมุดควันยังไง

          ออกัส : เอาผ้าอะไรก็ได้ที่หาได้ เอาใส่น้ำแล้วบิดให้หมาด ๆ เอามาคลุมจมูก ควันจะได้ไม่เข้าไป เราจะได้ไม่ตาย

          เปิ้ล : ออก้า ถุงพลาสติกเอามาทำอะไร

          ออกัส : ตอนที่ยังไม่ค่อยมีควัน เราเอาถุงพลาสติกใหญ่ ๆ มาแล้วตีลมเข้าไป แล้วก็ครอบหัวเราจะได้มีอากาศ

          เปิ้ล : ยิ่งเวลาไฟไหม้มา ให้เราทำยังไง

          ออกัส : ถ้าไฟไหม้ติดหลังเรา ให้เราหยุดแล้วให้เรานอนกับพื้น ปิดหน้าแล้วกลิ้ง แล้วไฟมันจะดับเอง

แล้วเรื่องดราม่าสินค้าที่เกิดขึ้นให้กำลังใจแม่จูนยังไง ?

          เปิ้ล : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างคอขาดบาดตายสำหรับครอบครัวเรา และครอบครัวคนอื่นที่ทำมาค้าขายด้วยกัน แต่ขอพูดที่เดียวที่งานอีเวนต์เสาร์นี้ (24 สิงหาคม 2562)

ก่อนจะถึงงาน ในระหว่างที่เกิดปัญหาเครียดขนาดไหน ?

          จูน : เครียดค่ะ เป็นระยะเวลานานมาสักพักแล้วด้วย ไม่ใช่แบรนด์หนูแบรนด์เดียว

เราให้กำลังใจกันยังไง ?

          จูน : คือแค่คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เราทำถูกต้องแล้ว แต่พอเรามาโดนแบบนี้แล้วด้วย เราเช็กกับแบรนด์อื่นด้วยโดนเหมือนกันหมด ก็เลยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่จัดการ

          เปิ้ล : ต้องออกมาเคลื่อนไหว สู้เพื่อเมีย เมียข้าใครอย่าแตะ

ชมคลิป


คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก kapook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ