ระบบสืบพันธุ์เป็นแหล่งกำเนิดของชีวิต การที่ระบบสืบพันธุ์เสื่อมลงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แก่ รังไข่ในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงจะหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจน เพื่อรักษาความเป็นหญิงและใบหน้าที่สวยงาม 

adplace_1

        แต่ผู้หญิงวัยหลัง 35 ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ความชราของระบบสืบพันธุ์จึงค่อยๆ ปรากฏให้เห็น การลดลงของระดับเอสโตรเจน จะนำไปสู่อาการวัยหมดระดู หรือวัยทอง และเป็นสาเหตุให้เกิดอาการกระดูกพรุน หลังค่อม ร่างกายเสื่อมสภาพ กระดูกหักง่าย

        แล้วคุณรู้มั้ย อะไรเป็นปัจจัยที่คุกคามสุขภาพอนามัยระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง

adplace_1

1. ไม่ดูแลระบบสืบพันธุ์

        ผู้หญิงส่วนใหญ่ดูแลรักษาผิวหน้าของตนอย่างดี แต่กลับห่วงใย “แหล่งกำเนิดของชีวิต” ไม่เพียงพอ ผู้หญิงหลายๆคนไปตรวจภายในก็ต่อเมื่อมีปัญหา ซึ่งจริงๆแล้วผู้หญิงควรตรวจภายในเป็นประจำถึงจะถูกต้อง ผู้หญิงที่มีสามีควรตรวจปีละครั้ง ส่วนผู้หญิงวัยมากกว่า 35 ทุกคนควรตรวจปีละครั้งเช่นเดียวกัน ถ้าการลดลงของเอสโตรเจนทำให้เกิดอาการวัยทอง คุณหมออาจจะแนะนำให้ฉีดเอสโตรเจนเพิ่มได้

2. แท้งหลายครั้ง

        การแท้งบุตรทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะสืบพันธุ์ และเป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องหลายชนิด ก่อนอื่นเลยการแท้งอาจจะทำร้ายเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นสาเหตุให้ตั้งครรภ์ยาก สองทำให้เกิดการติดเชื้อระบบสืบพันธุ์นำไปสู่การอักเสบท่อนำไข่และนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากหรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก การแท้งบ่อยครั้งยังทำให้เกิดโรคเต้านม เนื่องจากร่างกายของผู้หญิงหลังตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมนจะสูงขึ้น เต้านมจะขยายระบบสรีระจะเปลี่ยนแปลง และพอเกิดการแท้ง ระดับฮอร์โมนจะลดลงอย่างเฉียบพลัน เต้านมหยุดขยาย ต่อม Acinar ฝ่อ เต้านมเมื่อโดนกระตุ้นอย่างรวดเร็วโดยระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นและลดลงอาจจะเกิดเป็นโรค ซึ่งรวมซึ่งมะเร็งเต้านม และการหลีกเลี่ยงการทำแท้งที่ดีที่สุดก็คือการป้องกัน ลดอัตราการเกิดอันตรายตั้งแต่แรก

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเป็นประจำ

        จริงๆ แล้วระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงมีกลไกการทำความสะอาดตัวเอง การล้างด้วยน้ำสะอาดภายนอกก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ปกติแล้วในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงจะมีความเป็นกรดอ่อนๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำควาทสะอาดเป็นประจำจะส่งผลต่อความสมดุลของกรดเบส ซึ่งอาจะก่อให้เกิดโรคทางสูตินรีเวชอย่างร้ายแรงได้ ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นมีสารประกอบเช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะ ในขณะที่มันฆ่าแบคทีเรียที่เป็นอันตราย มันก็ยังทำลายโปรไบโอติกที่มีประโยชน์ให้น้อยลง ทำให้ความสามารถในการป้องกันตัวเองของช่องคลอดลดลงไปด้วย ถ้าเกิดอาการของโรคทางสูตินรีเวช ต้องรีบไปพบแพทย์โดยทันที

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR