เมื่อลูกสาว "ลืมหมวกกันน็อค" เป็นประจำ แม่จึงจัดให้ส่งตรงไปสถานีตำรวจเลย แต่ตอนเดินออกมา?!!

คอมเมนต์:

เทคนิคการสอนแบบใหม่ นับถือคุณแม่ท่านนี้เลย!!

    การอบรบสั่งสอนเด็กของผู้ปกครองแต่ละบ้านล้วนแตกต่างกันออกไป บางครอบครัวก็ใช้วิธีด่าว่าหรือการตี แต่คงไม่เพียงพอ คงต้องมีวิธีอื่นๆมาเสริมกันหน่อยแล้ว!! สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีคุณแม่ชาวต่างชาติคนหนึ่งให้บทเรียนสำคัญที่จะทำให้ลูกสาวจดจำไปตลอดชีวิต เป็นเทคนิคที่สุดยอดมาก กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากพากันวิพากษ์วิจารณ์

 

    มีคุณแม่คนหนึ่งได้โพสต์ภาพลูกสาวบนเพจท้องถิ่นว่า  “ลูกสาวชอบลืมเอาหมวกกันน็อคไว้ที่โรงเรียน คุณพ่อโมโหกับเรื่องนี้ทุกวันจนกินข้าวไม่ลง ลงโทษโดยการให้คัดหนังสือกี่ร้อยรอบก็ไม่เคยจำ จนหมดปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไงดีแล้ว? เตือน 100 ครั้ง ลืม 101 ครั้ง”

 

Sponsored Ad

 

    คุณแม่อธิบายเพิ่มเติมว่า ลูกสาวหลังเลิกเรียนจะต้องนั่งรถของสถาบันเรียนพิเศษที่ไปรับเพื่อไปเรียนพิเศษต่อ หลังจากเรียนพิเศษเสร็จคุณพ่อหรือคุณแม่ถึงจะไปรับที่สถาบันเรียนพิเศษ แต่ทุกครั้งพอไปรับลูกสาวก็ไม่เอาหมวกกันน็อคติดตัวไปที่สถาบันเรียนพิเศษด้วย แม่ก็จนปัญญา ระหว่างทางก่อนกลับบ้านจะผ่านสถานีตำรวจคุณแม่คนนี้จึงพาลูกไปเข้าไปในสถานีตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ช่วยอบรมสอนลูกสาวหน่อยคะ”


 

Sponsored Ad

 

    ในภาพจะเห็นว่า เด็กผู้หญิงเสื้อสีเทากางเกงสีส้มนั่งตรงหน้าโต๊ะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังนั่งฟังอย่างตั้งใจ ตำรวจถามว่า “พวกเราจะจับคนร้ายที่ไม่ชอบสวมหมวกกันน็อค หนูเป็นคนร้ายหรือเปล่า?” จากนั้นก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับอันตรายและโทษที่เกิดจากการไม่สวมหมวกกันน็อคนานกว่า 30 นาที (ดูท่าทางน้องจะตั้งใจฟังมาก นั่งหลังตรงมือไขว้หลัง)

    ตอนเดินกลับออกจากสถานีตำรวจลูกสาวตาแกงก่ำ ดูท่าทางจะกลัวจริงๆ  โดยคุณแม่คนนี้ยยังบอกอีกว่าได้ติดต่อบอกตำรวจร่วงหน้าแล้วว่าจะพาลูกสาวไปหา

 

Sponsored Ad

 

    โดยในตอนแรกตำรวจก็ตกใจเพิ่งเคยพบเคสการสอนแบบใหม่ก็คราวนี้แหละ คุณแม่ยังบอกอีกว่าตนเองมีลูก 3 คน ครอบครัวมีกฏจะไม่ใช้การตีหรือด่าว่าลูก นอกจากว่าจะสุดๆๆจริงๆถึงจะเลือกใช้วิธีนี้ พร้อมระบุว่า “การอบรบสั่งสอนเด็กๆควรใช้สติปัญญาในการคิดใคร่ครวญให้มาก หากใช้อารมณ์ในการสอนมันจะไม่เกิดประโยชน์” ความจริงในบางครั้งคำพูดของตำรวจเพียงคำเดียวก็มีอิทธิพลมากกว่าคำพูดหลายพันคำของพ่อแม่ด้วยซ้ำ หวังว่าน้องสาวคนนี้จะไม่ลืมหมวกกันน็อคอีกนะ


ที่มา:bomb01

แปลและเรียบเรียงโดย สารพันคนท้อง


บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ