เผยโฉม "เจ้าหญิงกังสดาล" สาวไทยอดีตพระชายากษัตริย์มาเลย์ จบชีวิตคู่ในเวลา 4 ปี!

คอมเมนต์:

เผยโฉม "เจ้าหญิงกังสดาล" สาวไทยอดีตพระชายากษัตริย์มาเลย์ จบชีวิตคู่ในเวลา 4 ปี!

        สาวไทยผู้โชคดี อดีตพระชายา สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ประเทศมาเลเซีย โดยได้จัดงานอภิเษกสมรสอย่างยิ่งใหญ่  ณ วังรัฐกลันตัน เมื่อ 15 พ.ย. 2547 เชิญแขกสำคัญในประเทศไทยเข้าร่วมงาน ก่อนจะจบชีวิตคู่ลงในอีก 4 ปี ต่อมา กระทั่งปลายปี 2561 สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ได้จัดงานอภิเษกสมรสสุดยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงมอสโก สาวผู้โชคดีคนนี้คือ อัคซาน่า วาเยโวดิน่า (Oksana Voevodina) สาวชาวรัสเซียวัย 25 ปี อดีตนางงามมิสมอสโก 2015 (อ่านเพิ่มเติม : เปิดพระประวัติกษัตริย์มาเลย์ หลังอภิเษกนางแบบรัสเซีย เผยเคยแต่งกับสาวไทยขึ้นเป็นเจ้าหญิง !)

 

Sponsored Ad

 

        ว่ากันด้วยการปกครองของประเทศมาเลเซีย มีการปกครองที่มีสุลต่านทั้ง 9 พระองค์ ในฐานะประมุขรัฐต่างๆ และอำนาจบริหารอยู่กับนายกรัฐมนตรีของรัฐๆ นั้น การขึ้นครองราชย์ไม่ใช้การเลือกตั้งอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่เป็นการสลับตามชื่ออักษรของรัฐนั้นๆ 

 

Sponsored Ad

 

        สุลต่าน Muhammad ที่ 5 แห่งรัฐกลันตัน หรือพระนามเดิมคือ Tengku Muhammad Faris Petra เป็นพระราชโอรสของสุลต่าน Ismail Petra ซึ่งพระประชวรด้วยเส้นพระโลหิตในสมองแตก จนเป็นอัมพาตและประกอบพระราชกรณียกิจไม่ได้ ดังนั้นจึงได้มีการแต่งตั้งให้พระองค์เป็นผู้สำเร็จราชการ พระองค์ได้รับการราชาภิเษกเป็นสุลต่านแห่งกลันตันเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2553 สืบราชบัลลังก์จากสมเด็จพระราชบิดาของพระองค์ สุลต่านอิสมาอิล เปตราแห่งกลันตัน ผู้ซึ่งถือว่าไร้ความเจ็บป่วย พระองค์ได้รับการประกาศให้เป็นยังดีเปอร์ตวนอากง (ประมุขแห่งรัฐมาเลเซีย) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2559

 

Sponsored Ad

 

"กังสดาล" เจ้าหญิงชาวไทย

        สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ได้รับการเลือกตั้งจากการประชุมเจ้าผู้ปกครองเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2559 เพื่อจะเป็นยังดีเปอร์ตวนอากง ผู้เป็นประมุขแห่งรัฐมาเลเซียพระองค์ต่อไป รัชกาลของพระองค์เริ่มเมื่อ 13 ธันวาคม 2559 ต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดี ตวนกู อับดุล ฮาลิม สุลต่านแห่งรัฐเกดะห์พระองค์ที่ 47 สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ทรงเป็นยังดีเปอร์ตวนอากงที่มีพระชนมายุน้อยที่สุดถัดจาก สมเด็จพระราชาธิบดีตวนกู ซัยยิด ปุตราแห่งปะลิส สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านมีซัน ไซนัล อาบีดินแห่งตรังกานู และสมเด็จพระราชาธิบดี ตวนกู อับดุล ฮาลิมแห่งเกดะห์

 

Sponsored Ad

 

        สำหรับมกุฎราชกุมารตวนกูมูฮำหมัดฟารีส เป็นรัชทายาทองค์โตของ ตวนกูอิสมาแอล สุลต่านรัฐกลันตัน มีพระมารดาชื่อ ตวนกูอานิส ซึ่งเป็นหลานของ ส.ส.วัยโรจน์ มีโอรส 3 องค์ และธิดา 1 องค์ มกุฎราชกุมาร ตวนกูมูฮำหมัดฟารีส เป็นรัชทายาทองค์โต ซึ่งจะเป็นสุลต่านของรัฐกลันตันองค์ต่อไป และสุลต่านรัฐกลันตันอาจจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของมาเลเซีย

        สาวไทยอดีตพระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 ประเทศมาเลเซีย 

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อปี 2547 สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ได้สมรสกับสาวไทย คือ "กังสดาล พิพิธภักดี" หรือเดิมคือ เติงกูซูไบดะห์ บินตีเติงกูนูรุดดีน เติงกู อัมปวน มะห์โกตา กลันตัน หญิงสาวผู้นี้มีชื่อเล่นว่า "ก้อย" เป็นบุตรคนที่สามจากทั้งหมดสี่คนของ "วัยโรจน์ พิพิธภักดี" (ตนกูดิง) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ และ "เยาวลักษณ์ พิพิธภักดี" ที่มีบิดาสืบเชื้อสายมาจากวงศ์เจ้าเมืองยะหริ่ง

การ์ดเชิญงานแต่ง (ถ่ายโดย armissara)

 

Sponsored Ad

 

        "กังสดาล พิพิธภักดี" หรือก้อย เธอมีศักดิ์เป็นหลานของเติงกูอานิส บินตีเติงกูอับดุลฮามิด ด้วยเติงกูอานิสเป็นบุตรสาวของพี่ชายต่างมารดานายวัยโรจน์ และเป็นพระชนนีในมกุฎราชกุมารตวนกู มูฮัมมัด ฟาริส "กังสดาล" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ.2546  ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ แต่ทำได้เพียง 3 เดือนก็ต้องลาออก เพราะต้องเข้าไปอยู่ในวังรัฐกลันตัน เพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาววัง เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าหญิงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

Sponsored Ad

        เส้นทางการพบรัก 

        "กังสดาล" ได้รู้จักกับ "มกุฎราชกุมารตวนกู มูฮัมมัด ฟาริส" ในงานสมรสบุตรสาวของทวีศักดิ์ อับดุลบุตร ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ "วัยโรจน์" ผู้เป็นบิดา เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2545 ที่วังยะหริ่ง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ซึ่งในครั้งนั้นอดีตสุลต่านแห่งรัฐกลันตัน พระอัครมเหสี พระราชบุตรและพระราชธิดา ได้เสด็จมาร่วมงานในฐานะญาติของเจ้าเมืองยะหริ่ง ทั้งสองได้รู้จักทักทาย และเป็นที่พอพระราชหฤทัยของมกุฎราชกุมาร และต่อมากังสดาลก็ได้เข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมารอีกครั้งในงานสมรสของหลานพิเชษฐ สถิรชวาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ.2546 หลังจากที่มกุฎราชกุมารเสด็จกลับไปยังรัฐกลันตัน ครั้งนี้จึงได้ทูลให้พระราชบิดามาสู่ขอกังสดาล และนำไปสู่การอภิเษกสมรสของทั้งสอง 

ของชำร่วย ในงานแต่ง (ถ่ายโดย armissara)

        อภิเษกสมรส สุดยิ่งใหญ่ เป็นข่าวดังในเมืองไทย 

        เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2547 ผู้สื่อข่าวประจำปัตตานีรายงานว่า ได้มีการ์ดแต่งงานเป็นภาษารูมาไนซ์ ของประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ขอเรียนเชิญด้วยความเคารพ เพื่อเป็นเกียรติและร่วมพิธีอภิเษกสมรส ระหว่าง มกุฎราชกุมาร ตวนกูมูฮำหมัดฟารีส บุตรา ตวนกูอิสมาแอล สุลต่านรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กับ ตวนกูสุไบดะ หรือ น.ส.กังสดาล พิพิธภักดี บุตรของ นายวัยโรจน์ พิพิธภักดี อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ 5 สมัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี พรรคไทยรักไทย 

แขกผู้มาร่วมงาน (ถ่ายโดย armissara)

        โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 15 พ.ย. 2547 ที่วังรัฐกลันตัน โดยมีการ์ดเชิญทั้งสิ้น 300 ใบ เป็นขององค์สุลต่านเป็นผู้เชิญคนไทย 50 ใบ ส่วน ส.ส.วัยโรจน์เชิญ 250 ใบ การ์ดเชิญนี้จะเชิญไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรี และ ส.ส.อีกหลายร้อยคน สำหรับการ์ดเชิญมีสีเหลืองอร่าม มีภาพของมกุฎราชกุมารในชุดมกุฎราชกุมารเต็มยศสีเหลืองทอง กับภาพของ ตวนกูสุไบดะ หรือกังสดาล ในชุดประเพณีนิยมของชาวไทยมุสลิมสีน้ำเงิน คลุมศีรษะด้วยผ้าสีขาว ซึ่งในงานอภิเษกสมรสครั้งนี้เจ้าภาพได้เตรียมเครื่องเบญจรงค์ของไทยไว้แจกให้กับแขกที่มาร่วมพิธี ส่วนชุดเจ้าสาวเป็นชุดไทยสากลสีขาว ซึ่งสั่งตัดจากร้านในกรุงเทพฯ ราคา 2 แสนบาท ในพิธีอภิเษกสมรสครั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปร่วมในพิธีด้วย 

        เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ 

        ขณะที่ นางเยาวลักษณ์ ซึ่งพักอยู่ยังบ้านเลขที่ 5/2 ถนนเจริญประดิษฐ์ อ.เมืองจ.ปัตตานี ได้ให้ข้อมูลว่า ทางการมาเลเซียได้เตรียมการจัดงานอภิเษกสมรสอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งรู้สึกภูมิใจและดีใจมากเพราะถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดแก่วงศ์ตระกูล ทั้งนี้เชื่อว่าบุตรสาวจะเป็นทูตในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และอาจส่งผลในเรื่องดีๆ ให้กับประเทศไทยเราในอนาคต ตวนกูสุไบดะ หรือกังสดาล มีภารกิจแทนพระมเหสีของสุลต่านในการออกเยี่ยมเยียนประชาชนชาวมาเลเซียแล้ว ขณะที่บรรยากาศในรัฐกลันตันมีรูปภาพของ น.ส.กังสดาล ติดอยู่ทั่วทั้งเมือง 

        ใช้ชีวิตร่วมกัน 4 ปี มีอันต้องเลิกรา แต่งงานใหม่กับนางงามรัสเซีย 

        น่าเสียดายที่ชีวิตรักยืนยาวได้เพียง 4 ปี เพราะหลังจากการอภิเษกสมรสได้ไม่นานทั้งสองก็หย่าขาดจากกัน โดยที่ไม่มีโอรส-ธิดาด้วยกัน กระทั้งเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา กลายเป็นคิวสวมมงกุฎเจ้าหญิงของ อัคซาน่า วาเยโวดิน่า (Oksana Voevodina) สาวชาวรัสเซียวัย 25 ปี อดีตนางงามมิสมอสโก 2015 ได้เสกสมรสกับสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 แห่งกลันตัน องค์พระประมุขแห่งมาเลเซีย พระชนมายุ 49 พรรษา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ณ กรุงมอสโก สร้างตำนานรักต่างวัย 24 ปีของหญิงสามัญชนกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์

        อัคซาน่า วาเยโวดิน่า อดีตนางงามมิสมอสโก สู่เจ้าหญิงมาเลเซีย ภายในงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราสมพระเกียรติ โดยเจ้าสาวมาในชุดแต่งงานสีขาวสง่างามระยิบระยับ คลุมฮิญาบ ส่วนสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 แห่งกลันตัน ทรงสวมฉลองพระองค์พื้นเมืองสีน้ำเงินของประเทศมาเลเซีย โดยในพิธีไม่มีการเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนอาหารก็เป็นอาหารฮาลาลทั้งหมด

        อัคซาน่า วาเยโวดิน่า อดีตนางงามมิสมอสโก สู่เจ้าหญิงมาเลเซีย 

        สำหรับไทม์ไลน์ความรักของทั้งสองไม่มีรายงานแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทราบแต่เพียงว่าเธอได้หันมานับถือศาสนาอิสลาม เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 และได้ใช้ชื่อมุสลิมว่า Rihana ส่วนสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 แห่งกลันตัน ด้านประวัติส่วนตัวของเจ้าหญิงพระองค์ใหม่ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก นอกเหนือจากการประกวดมิสมอสโกเมื่อปี 2015 หลังจากนั้นเธอก็ทำงานเป็นนางแบบที่ประเทศไทยและจีน ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวชอบเล่นสเก็ต ชอบความเร็ว และมอเตอร์ไซค์

        ส่วนด้านการศึกษานั้นเชื่อว่าเธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัสเซีย แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอเคยแต่งงานมาก่อนหรือไม่ เพราะเธอใช้นามสกุลคนละนามสกุลกับพ่อ และในปัจจุบันเธอได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า Rihana Oxana Gorbatenko เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อัคซาน่า วาเยโวดิน่า (Oksana Voevodina) สาวชาวรัสเซียวัย 25 ปี อดีตนางงามมิสมอสโก 2015

        6 มกราคม 2562 สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ประกาศสละราชสมบัติ 

        กระทั่งกลายเป็นข่าวช็อกปีใหม่ เมื่อ สุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ทรงประกาศสละราชสมบัติเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่กษัตริย์ทรงสละบัลลังก์ก่อนครบวาระหมุนเวียน 5 ปี ยุติกระแสคาดเดานานหลายสัปดาห์เกี่ยวกับอนาคตของพระองค์ หลังจากทรงลาพักพระราชกรณียกิจเพื่อรักษาพระวรกาย

        โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ เอเอฟพี และเอพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่า แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังแห่งชาติมาเลเซีย เมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า การสละราชสมบัติของสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 กษัตริย์พระองค์ที่ 15 ของมาเลเซีย ให้มีผลในทันที โดยไม่ให้เหตุผล และเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนในประเด็นนี้

        ความเคลื่อนไหวมีขึ้นหลังจากสุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 พระชนมพรรษา 49 พรรษา ทรงลาพักจากการประกอบพระราชกรณียกิจเป็นเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. เพื่อรักษาพยาบาลพระวรกาย และในช่วงเวลานั้นมีรายงานข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับอดีตเทพีสาวงามวัย 25 ปีชาวรัสเซีย แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังมาเลเซียกล่าวอีกว่า "สมเด็จพระราชาธิบดีทรงตรัสแก่ประชาชนชาวมาเลเซีย ให้มีความสมานสามัคคี อดกลั้น และทำงานร่วมกันต่อไป"

อัคซาน่า วาเยโวดิน่า (Oksana Voevodina) สาวชาวรัสเซียวัย 25 ปี อดีตนางงามมิสมอสโก 2015

        มาเลเซียมีสุลต่านผู้ปกครอง 9 รัฐ หมุนเวียนกันขึ้นเป็นกษัตริย์วาระ 5 ปี การคัดเลือกสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ต่อไป ตัดสินจากการลงมติของ "สภาผู้ปกครอง" ที่ประกอบด้วยสุลต่านของทั้ง 9 รัฐ สำหรับสุลต่านมูฮัมมัดที่ 5 ผู้ปกครองรัฐกลันตัน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงเข้าพิธีบรมราชาภิเษกในเดือน ธ.ค. 2559 กลายเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระชนมพรรษาน้อยที่สุดของประเทศเท่าที่เคยมีมา.


ข้อมูลและภาพจาก thairath

บทความแนะนำ More +