“แม่” เป็นคำที่มีพลังที่สุดในโลก

        เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า "ฉีฉี" เป็นลูกสาวคนเล็ก ฐานะทางบ้านไม่เลว พ่อแม่รักเธอมาก โดยเฉพาะพ่อที่ตามใจเธอมาโดยตลอด

        เวลาพี่ชายทำผิดจะถูกทำโทษ แต่เวลาเธอทำผิด แล้วร้องไห้ พ่อจะค่อยๆปลอบค่อยๆอธิบายเหตุผล แม้แต่คำพูดแรงๆก็ไม่มี

 

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        พ่อมักบอกว่า ลูกชายต้องตีถึงจะได้ดี แต่ลูกสาวเหมือนแก้วตาดวงใจ จะตีได้ยังไง เพราะเติบโตมาท่ามกลางความรัก ฉีๆจึงเป็นเด็กร่าเริงสดใส เวลายิ้มมีลักยิ้มสองข้าง ใช้ชีวิตจนได้เรียนมหาวิทยาลัยได้อย่างราบรื่น พอเรียนจบก็กลับมาอยู่กับพ่อแม่ ได้งานที่มั่นคงทำ

        หลังทำงานได้ไม่นาน "ไค" เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบเหมือนกันก็ตามจีบเธอ แถมไคยังเป็นผู้ชายแบบที่ฉีๆชอบ ผ่านไป 2 ปีก็ได้แต่งงานกัน

 

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        ฉีๆไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องการเงินมาก่อน ตอนคบกันเธอก็มองแค่ว่าไคดีกับเธอแค่ไหน ไม่เคยสนใจว่าฐานะทางบ้านเขาจะเป็นยังไง ฉีๆกับไคเป็นคนจังหวัดเดียวกัน แต่บ้านเขาอยู่ห่างออกไป พ่อแม่เป็นเกษตรกรธรรมดา ที่บ้านมีน้องชายที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอีกคน

        เธอสองคนทำงานบริษัทเดียวกัน แต่คนละแผนก ไคเป็นคนไม่เลว ความสามารถในการทำงานก็ทำให้ทุกคนยอมรับ ยิ่งกับฉีๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง

 

 

        หลังจากทั้งสองคบกันได้ปีครึ่ง ฉีๆก็พาไคไปพบพ่อกับแม่ จริงๆเธออยากพาไคไปบ้านนานแล้ว แต่เป็นเขาที่บอกว่าฐานะตอนนี้ยังไม่ดีพอ รอให้ได้เลื่อนขั้นก่อน ทำให้ฉีๆต้องปิดบังพ่อแม่มาโดยตลอด 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

 

        จนไคได้เป็นหัวหน้า ถึงมีความกล้าพอไปบ้านเธอ พอพ่อแม่ของฉีๆได้ยินว่าลูกสาวจะพาแฟนมาเจอ ก็ตื่นเต้นดีใจมาก แต่พอได้ยินว่าว่าที่ลูกเขยเป็นคนบ้านนอก ที่บ้านมีพี่น้องสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่ ก็บอกไปต่อหน้าทันทีว่าไม่เหมาะสมกัน โดยเฉพาะแม่ของฉีๆ เธออยากได้ลูกสาวได้คู่ที่เหมาะสมกัน จะเป็นคนในท้องที่ก็ได้ ฐานะไม่ดีก็ไม่เป็นไร พวกเขาสามารถช่วยให้ลูกสาวมีชีวิตอย่างมั่นคงไปทั่วชีวิตได้

        คนที่ฉีๆชอบต่างกับที่พ่อแม่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง แม้แต่พ่อที่ตามใจเธอมาตลอด ครั้งนี้ก็ยังไม่เข้าข้าง ยังเห็นตรงกับแม่บอกให้เธอเลิกกับไค ข้างนึงก็พ่อแม่ อีกข้างก็คนรัก เพียงแค่ครึ่งปีเด็กสาวที่รักครอบครัวอย่างฉีๆผอมลงไปถึง 10 กก. สุดท้ายพ่อก็อดสงสารเธอไม่ได้ โน้มน้าวแม่ให้ยอมตกลงให้เธอได้แต่งงานกับไค

 

 

        แต่ตอนแต่งงาน แม่ไม่ให้อะไรเธอเลย กับลูกเขยก็ชักสีหน้าตลอด ฉีๆโกรธ หลังแต่งงานจึงไม่ค่อยกลับบ้าน พ่อเองก็ต้องแอบแม่เอาของกินไปส่งให้เธอบ้าง หลังแต่งงานพวกเขาเช่าบ้านอยู่ ชีวิตหลังแต่งงานเหมือนตอนคบเป็นแฟนกัน แต่มีแผนการซื้อบ้านเพิ่มขึ้นมา สองคนไม่ได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านเป็นประจำเหมือนตอนเป็นแฟนกัน ฉีๆฝึกทำอาหาร ไคเองก็พยายามเรื่องงานมากขึ้น

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

 

        พริบตาเดียว ฉีๆกับไคก็แต่งงานกันครบปีแล้ว เร็วๆนี้ฉีๆรู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่ค่อยปกติ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาหารจากที่เคยชอบ กินไปกินมาก็คลื่นไส้ อาเจียนออกมา ไคเห็นเข้าก็ตกใจ รีบพาไปส่งโรงพยาบาล ถึงได้รู้ว่าตั้งครรภ์

        สองคนดีใจมาก ฉีๆโทรบอกพ่อ แม่ไม่พูดอะไร แต่พ่อดีใจมาก บอกว่าต่อไปนี้เธอจะกระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กๆไม่ได้แล้ว และบอกว่ามีเวลาว่างก็กลับมากินข้าวที่บ้านบ้าง

        เพราะว่าลูกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉีๆจึงอยากซื้อบ้านให้เร็วขึ้น ไคก็คิดเช่นเดียวกัน ลองคิดคำนวณดูเงินเก็บ พ่อแม่ของไครู้ว่าพวกเขาอยากซื้อบ้านก็ส่งเงินมาให้อีกหลายแสน ซึ่งเป็นจำนวนมากสุดเท่าที่พวกเขาจะให้ได้แล้ว แต่รวมกับเงินที่พวกเขามีแล้ว ต่อให้ซื้อบ้านมือสองเล็กๆ ก็ยังขาดอีกหลายแสน ไคบอกฉีๆอย่ากังวล เขาจะหาหนทางเอง

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        คิดไปคิดมา ฉีๆตัดสินใจกลับไปขอเงินพ่อแม่ เธออยากซื้อบ้านภายในสิ้นปี ฉีๆกลับบ้านไปตามลำพัง พอเข้าไปในบ้าน พ่อก็ถามไถ่อย่างอบอุ่น แม่ยังคงไม่สนใจเธอเหมือนเดิม หลังจากคุยกับพ่อได้ 2-3 ประโยค เธอก็พูดจุดประสงค์ออกมาตรงๆ นึกไม่ถึงว่าพูดยังไม่ทันจบ แม่ก็โพล่งออกมาว่าบาทเดียวก็ไม่ให้

        ฉีๆเองก็เป็นคนอารมณ์ร้อน ได้ยินแม่บอกว่าไม่ได้ ก็ไม่พูดอะไรอีก ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากบ้านเลย พอลงมาถึงชั้นล่าง ก็พบว่าลืมผ้าพันคอไว้ในบ้านพ่อแม่ จึงขึ้นลิฟท์กลับขึ้นไป ตอนเดินมาถึงหน้าประตูก็พบว่าประตูแง้มอยู่ ได้ยินเสียงพ่อแม่คุยกันลอดออกมา

        ได้ยินเสียงพ่อว่า : คุณนี่นะ ลูกสาวเราตั้งท้องนะ ให้โกรธออกไปแบบนั้นได้ยังไง แล้วคุณยังไม่ให้ผมตามแกไปอีก แล้วอีกอย่าง ลูกก็ออกปากขอยืมแล้ว ทำไมคุณปฏิเสธ

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        คุณมันก็ตามใจลูกไม่เคยดูอะไร ฉันไปดูบ้านหลังนึงไว้ตั้งนานแล้ว อยู่ใกล้โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม ที่ไม่ให้ยืมเงินก็เพราะไม่อยากให้ลูกไปซื้อบ้านเล็กๆสกปรกซอมซ่อ ที่ฉันไม่ให้คุณตามลูกไป ก็เพราะจะให้คุณพาลูกกับลูกเขยไปดูบ้านด้วยกัน ถ้าลูกชอบ คุณก็จองให้แกซะ

        ฉีๆที่ยืนอยู่หน้าประตูทนไม่ไหวน้ำตาไหลนองหน้า ที่แท้เธอเข้าใจแม่ผิด เธอรีบเดินเข้าไปในบ้าน กอดแม่แน่น ตอนนั้นเองเธอถึงได้รู้ว่าพ่อกับแม่รักเธอมากแค่ไหน ชาตินี้เธอคงทดแทนบุญคุณไม่หมด

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR