อาตมาไม่ได้ใช้เงินมา 25 ปีแล้ว "พระอาจารย์อมโร" หนุ่มฮิปปี้อังกฤษ สู่ทางสายกลางที่น่าเลื่อมใส!

คอมเมนต์:

เป็นบุญที่ได้ฟัง สาธุ!

หมายเหตุ:สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ฟังแล้วถึงกับต้องสาธุดังๆ กับเรื่องราวสุดน่าประทับใจของ ศิษย์หลวงปู่ชา “พระอาจารย์อมโร” จากวิถีฮิปปี้หนุ่มอังกฤษ สู่เส้นทางของสมณเพศที่น่าเลื่อมใส “อาตมาไม่ได้ใช้เงินมาเป็นเวลา 25 ปีแล้ว อาตมาอยู่ด้วยของที่มีคนนำมาถวายเท่านั้น อาตมาไม่ไปตามที่ต่างๆ นอกจากมีผู้นิมนต์ไปเท่านั้น”

        พระอาจารย์อมโร ศิษย์หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

 

Sponsored Ad

 

        ปัจจุบัน เป็นเจ้าอาวาสวัดอมราวดี (สาขาวัดหนองป่าพง) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

        ชีวิตของเจเรมี ฮอร์เนอร์ เปรียบเสมือนเม็ดบัวที่ก่อกำเนิดและบ่มเพาะตัวอยู่ที่ท่ามกลางความหนาวเหน็บของประเทศอังกฤษ แต่เพราะสภาพแวดล้อมไม่พร้อมให้ผลิบาน เจเรมีผู้ตั้งคำถามถึงปรัชญาศาสนาและอิสรภาพแห่งชีวิต จึงเป็นได้เพียงฮิปปี้หนุ่มผมยาว ดื่ม เ ห ล้ า เ ค ล้ า กั ญ ช า ไปวันๆ ก่อนที่จะตกเป็นอาหารปลาและเต่า โชคดีที่วันหนึ่งเมล็ดบัวถูกพัดพามาตกลง ณ วัดป่านานาชาติ เมล็ดบัวเริ่มแทงยอด แตกใบอ่อน ก่อนจะผลิบานเป็นดอกบัวงาม ณ แดนไกลในวันนี้

 

Sponsored Ad

 

        ก่อนจะมาเป็นพระอาจารย์อมโร ภิกขุ ชื่อเดิมของท่านคือ เจเรมี ชาร์ลส์ จูเลียน ฮอร์เนอร์

        ตอนเด็กท่านต้องทำวัตรแบบคริสต์และท่องคำสอนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลที่โรงเรียนทุกวัน พอท่านอายุ 6-7 ขวบก็เริ่มสงสัยว่าจริงหรือเปล่าที่ถ้าเชื่อพระเยซู ใจจะบริสุทธิ์ แล้วทุกสิ่งจะดีเอง บาทหลวงก็สอนให้ท่านอ้อนวอนแล้วพระเจ้าจะประทานให้ทุกสิ่ง ท่านดีใจมากในวันคริสต์มาสท่านอยากได้รถ ดั บ เ พ ลิ ง จึงสวดขอพระเจ้า แต่ไม่ได้ ท่านจึงสงสัยหรือพระเจ้าจะไม่มีจริง มีบทสวดอยู่บทหนึ่งขึ้นต้นว่า “i believe in god ฉันเชื่อในพระเจ้า” ท่านจึงถามบาทหลวงว่า ถ้าเราไม่เชื่อแต่สวดว่าเชื่อ ถือว่าโกหกจริงไหม นั่นเป็นคำถามของท่านที่มีความหมายต่อท่านมากในตอนนั้น แต่บาทหลวงกลับตอบว่า “Don’t be cheeky อย่าลามปาม” และท่านถูกมองว่าท่านกลายเป็นเด็กมีปัญหา ทั้งที่นั้นเป็นคำถามสำคัญ แต่ถูกปัดทิ้ง ศรัทธาจึงเสียไปในครั้งนั้น

 

Sponsored Ad

 

        ท่านเล่าให้ฟังว่า “ตอนเด็กๆ อาตมาคิดว่าหัวใจของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อาตมาก็ไม่ทราบว่าคืออะไร หลายศาสนามักอธิบายว่าพระเจ้าเป็นคน เป็น super person แต่อาตมารู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าพระเจ้าเป็น something ไม่ใช่ someone ตอนนั้นคิดว่าปรมัตถธรรมนั้นมีแน่และสำคัญมาก แต่ไม่ใช่เป็นพระเจ้าที่เป็นบุคคลแบบในคัมภีร์ พระเจ้าไม่ได้เป็นผู้ชายอายุมาก ไม่ใช่คนตั้งกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติต่างๆ แต่จริงๆ แล้วพระเจ้าเป็นอย่างไร อาตมาไม่รู้และเมื่อไม่รู้ อาตมาอยากรู้ อยากจะถาม อยากจะเข้าใจ อยากจะเห็นสัจธรรมของชีวิต อยากเห็นปรมัตถธรรม แต่ตอนนั้นอาตมายังเด็กและยังไม่รู้หนทางที่จะพิจารณาให้เห็นความจริง”

 

Sponsored Ad

 

        ยุคของท่านเป็นยุคฮิปปี้ หนุ่มสาวในยุคนั้นส่วนใหญ่มีการคิดอิสระ (free thinking) คือ จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง ปลดปล่อยตัวเองออกจากกฎหมาย กฎเกณฑ์ของสังคม และกฎระเบียบของครอบครัว

 

Sponsored Ad

 

        ตอนนั้นท่านก็เป็นฮิปปี้คนหนึ่ง เพราะชอบแนวคิด ชอบชีวิตไม่มีกฎ ไว้ผมยาวเฟี้อย ดื่ม เ ห ล้ า  สู บ กั ญ ช า ท่านอาจารย์อมโรเล่าถึงพวกฮิปปี้ให้ฟังว่า”พวกนี้ข้างนอกดูว่าอิสระเต็มที่ แต่ข้างในไม่ใช่เลย ฮิปปี้ไ่ม่เคยเป็นอิสระ จาก เ ห ล้ า ย า เ ส พ ติ ด  และ เ ซ็ ก แถมยังยึดติดในความคิดของตัวเองอีกด้วย”

        ต่อมาท่านสงสัยว่าจิตใจของเราทำงานอย่างไร อยากมีความสงบความสบายใจ ท่านจึงเลือกศึกษาจิตวิทยา (psychology) และสรีรวิทยา (physiology) ที่University of London แต่พอท่านเรียนๆ ไปก็เห็นว่าต่อให้ศึกษาจนเป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา จิตใจก็ยังสับสนและเป็นทุกข์อยู่ดี เลยคิดว่าจิตวิทยาไม่สามารถช่วยให้ใจสงบ เรียนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ท่านต้องการแสวงหาความสงบ ก็เพราะจิตท่านมันไม่สงบเอามากๆ มีห่วงมาก กลัวมาก รู้สึกไม่มั่นคง กังวลไปซะทุกอย่าง

 

Sponsored Ad

 

        ภายนอกไม่มีอะไร ครอบครัวท่านดีมาก บ้านท่านมีสวนดอกไม้ตรงประตูบ้านเหมือนสวรรค์ พ่อแม่มีเงินพอใช้ โรงเรียนก็ดี สังคมก็ดี ภายนอกจึงไม่มีอะไรให้ห่วงแต่ท่านกลับรู้สึกหน่วงอยู่ภายใน นี่คือเหตุผลที่ท่านอยากเข้าใจจิตใจนี้ เพราะสงสัยทำไมจึงเป็นทุกข์ ทั้งที่ทุกอย่างก็มีพร้อมหมด

Sponsored Ad

        แม้จะมีความสุข แต่มันสั้นๆ ดื่ม สุ ร า หรือ สู บ กั ญ ช า ก็มีความสุขแต่มันไม่นานและไม่เคยเต็ม ท่านเรียนดี เรียนจบก่อนเพื่อนท่านสองปี ได้เกียรตินิยมอันดับสอง เป็นนักกีฬาได้รางวัลมากมายเพียบพร้อมไปหมด แต่ข้างในกลวง ..have a hole in a heart.. ไม่พอ ไม่เคยพอใจ ยากที่จะเข้าใจ

        “พี่สาวอาตมาเป็นคนเรียบร้อย แต่อาตมาเป็นคนสุดโต่ง เรียกว่าคนอื่นทำ 100 อาตมาทำ 120 ถ้าลงมือทำอะไร อาตมาก็จะเป็นมากกว่าคนอื่น ตอนแรกอาตมา ดื่ ม สุ ร า หรือ สู บ กั ญ ช า เพื่อจะมีความสุข ปาร์ตี้สนุกไปเรื่อย ต่อมาก็ ดื่ ม และ สู บ เพื่อปิดประตูความรู้สึก หยุดคิด จะได้ลืมอะไรๆ ไปให้หมดโชคดีที่ วันหนึ่งได้เห็นว่า ถ้าใช้ชีวิตอย่างนี้คงตายก่อนอายุยี่สิบห้า ถ้าไม่เปลี่ยนเส้นทางอายุคงจะสั้น“

        ในช่วงที่ท่านเป็นนักศึกษา ได้มีโอกาสฟังบรรยายของ เทรเวอร์ สเตนคอฟ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ รูดอล์ฟ สไตเนอร์ (Rudolf Steiner) อีกที เทรเวอร์อธิบายเรื่องกรรมและการอบรมจิตได้น่าสนใจมาก และเหมือนเขาจะมีฌานหยั่งรู้และเข้าใจคน วันหนึ่งเขาบอกแก่ท่านว่า "ผมไม่รู้ว่านี่คือข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่คุณไม่มีทางพบความสุขในชีวิตทางโลกได้หรอก” และ "ชะตาชีวิตของเธออยู่ที่ตอนเหนือของอินเดีย" พูดจบเขาก็ไม่อธิบายอะไรอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกับชีวิตของท่านมาก

        ซึ่งคงจะจริงเพราะที่ผ่านมาท่านไม่สนใจความสำเร็จทางโลกเลย แม้ตอนเรียนจะมีโอกาสทำปริญญาโทและเอก เมื่อเรียนจบแล้วก็สามารถเข้าทำงานในธุรกิจจิเวลลี่ของพ่อทูนหัวได้เลย นอกจากนี้ท่านยังเขียนหนังสือและแสดงละครเรียกว่ามีช่องทางให้เลือกในชีวิตมากมาย ประตูหลายบานต่างเปิดรับ แต่สุดท้ายท่านกลับไม่ชอบไม่สนใจ ไม่เอาอะไรกับเส้นทางโลกเลย และท่านชอบอ่านวรรณคดีเกี่ยวกับจิตวิญญาณอยู่แล้ว เช่นปรัชญาอินเดีย จีน จึงพอเข้าใจว่าปรัชญาทางตะวันออกเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติ เมื่อทั้งสองเหตุมารวมกันท่านจึงตัดสินใจจะเดินทางไปตะวันออก ลองไปแบบไม่มีจุดหมาย ดูซิว่าจะค้นพบอะไรบ้าง

        และในที่สุด ท่านก็ได้มาพบเจอกับวิถีชีวิต ในร่มเงาพุทธศาสนา เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งที่ท่านได้พบว่าธรรมะในพุทธศาสนา ได้เริ่มหยั่งรากลงไปในใจของท่าน

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก สาขาวัดหนองป่าพง และ พุทธธรรมกรรมฐาน ม.ราชภัฏอุบลราชธานี