บ้านปลอดขยะ ครอบครัวมี 4 คน "แต่ 10 ปีกลับมีขยะแค่ 1 ขวด" เท่านั้น

คอมเมนต์:

นับถือใจเลยค่ะ บ้านดูสะอาดมาก

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    สมาชิก 4 คนของบ้านกลับมีขยะแค่ 1 กระปุก สื่อต่างประเทศรายงานว่า ที่สหรัฐมีครอบครัวหนึ่งชื่อ Bea's Family โดยครอบครัวนี้มีสมาชิกด้วยกัน 4 คน พ่อแม่ และลูกชาย 2 คน ใช้ชีวิตครอบครัวไร้ขยะมานานกว่า 10 ปี 

    ขยะตั้งแต่ปี 2015 พวกเขาได้รวบรวมไว้ในกระปุกแก้วใสขนาด 500 มล. คุณเข้าใจไม่ผิดตลอด 1 ปี ขยะของทั้งบ้านมีแค่ 1 กระปุกเท่านั้น

 

Sponsored Ad

 

    แน่นอนว่าขยะเหล่านี้ไม่สามารถฝังดินกลบได้ หรือเป็นขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ เช่น แท็กสัมภาระ เคสโทรศัพท์มือถือ ซิลิโคน กระป๋องถุงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ …

    นี่คือขยะปี 2014

 

Sponsored Ad

 

    นี่คือขยะปี 2015

    นี่คือขยะปี 2016

    ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาพวกเขาทั้งบ้านพยายามปฏิเสธการก่อให้เกิดขยะ

 

Sponsored Ad

 

    แต่สิ่งดึงดูดใจมีมากมาย เพราะเราต้องซื้อของกิน ดื่ม เครื่องสำอางบำรุงร่างกาย แค่นี้ก็ทำให้มีขยะมากมายแล้ว

    และเพราะเหตุนี้ทำให้ครอบครัวเลิกนิสัยการซื้อๆๆ ทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด นี่คือ แปรงสีฟันไม้ไผ่ย่อยสลายเองได้

 

Sponsored Ad

 

    จุดประสงค์ของบทความนี้คือไม่ใช่ดึงดูดให้ทุกคนติดตามชีวิตของพวกเขา แต่ให้เราตระหนักถึงการสร้างขยะโดยไม่จำเป็น และให้ดูครอบครัว Bea's เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแนวคิดของการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้สำหรับทุกคน

 

Sponsored Ad

 

    หลายคนบอกว่าเป็นชีวิตที่น่าเบื่อมาก แต่พวกเขาได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้พวกเขามีความสมดุลใหม่และเพลิดเพลินกับการสร้างขยะให้น้อยที่สุด 

    ห้องนอน ฝาผนังทั่วบ้านเต็มไปด้วยของที่ทำจากธรรมชาติ ส่วนโต๊ะ เก้าอี้ในห้องรับแขก็ซื้อมือสองมา ส่วนห้องนอนของเราและลูกทั้งสองก็สะอาด ดูโล่งสบายตา มีหน้าต่าง โต๊ะอ่านหนังสือ เตียงนอน และตู้เสื้อผ้าที่ไม่เคยเต็มล้น

 

Sponsored Ad

 

    นี่คือบ้านที่พร้อมออกเดินทางได้เสมอ เพราะของทุกอย่างเตรียมพร้อมในกระเป๋าเดินทางแล้วเสมอ

Sponsored Ad

    ครอบครัวนี้มักออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว ฉะนั้นก็พวกเขาพร้อมเสมอสำหรับการออกไปเดินเล่นนอกบ้าน เพราะว่าเมื่อพวกเขาต้องออกเดินทางไปนานก็สามารถจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านและปล่อยเช่าบ้านของพวกเขาได้ ทำให้มีรายได้เพื่อชดเชยการท่องเที่ยวในครั้งนั้นไป ประหยัดเงินด้วย

    แน่นอนว่าอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้านส่วนใหญ่จะเป็นแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่สิ้นเปลือง

    ในตอนแรกสามีเป็นกังวลว่า ถ้าเช่นนั้นจะสั่งอาหารจากนอกบ้านไม่ได้ เพราะเป็นการเพิ่มขยะให้แก่บ้าน แต่หลังจากฝึกฝนไปได้ระยะหนึ่ง ก็พบว่าที่จริงของกินมีมากมายจนน่าตกใจ 

    ทุกครั้งBea ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็จะเตรียมถุงภาชนะที่แบ่งประเภทของที่บ้านไปด้วยเสมอเช่น ถุงผ้า ,ถุงตาข่าย, ขวดแก้ว, กระปุกแก้ว หากคุณต้องการซื้อขนมปังฝรั่งเศส อาจต้องนำปลอกหมอนขนาดยาวไปด้วย

    ของใช้ทุกอย่างไม่ใช่ถุงพลาสติกเลย แต่ใช่ภาชนะที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ เธอจัดแบ่งสัดส่วนได้อย่างเป็นระเบียบเพื่อสะดวกในการหยิบจับ Beaจะซื้อนมสดจากร้านที่มีบริการรีไซเคิลขวดบรรจุนม

    ครอบครัวนี้ไม่ใช้ฟิล์มถนอมอาหาร แต่จะใช้ขวดแก้วที่ปิดผนึก เพราะสามารถรีไซเคิลใช้ซ้ำได้และเป็นภาชนะสำหรับแยกอาหารที่ดีที่สุด

    จะสังเกตเห็นว่าลิ้นชักโต๊ะ ตู้เย็นหรือที่อื่นๆจะไม่มีขยะเลย แต่เต็มไปด้วยอาหารมากมาย

    เครื่องครัวก็เช่นกัน จะซื้อซอสพริก ซอสมะเขือเทศที่ราคาถูกและตรงตามฤดูกาล โดยจะซื้อสะสมปริมาณมากสำหรับ 6 เดือน

    หลายคนเมื่อเห็นครอบครัวนี้ก็รู้สึกว่าวุ่นวาย ยุ่งยาก ลำบากมาก แต่สำหรับBeaและครอบครัวบอกว่าชอบวิถีชีวิตแบบนี้มาก และตอนนี้ก็คุ้นเคยไปแล้ว 

    สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน

    ชั้นวางวางผลิตภัณฑ์พลาสติกก็ทำเอง ส่วนเครื่องสำอาจสิ่งเดียวที่ซื้อใช้คือ ครีมกันแดดแบบสัมผัส นอกนั้นครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางและอื่นๆก็ผสม ทำเอง

    สบู่ของที่บ้านใช้เป็นน้ำยาล้างห้องน้ำ ,หน้าล้าง,สระผม,อาบน้ำ,โกนหนวด เรียกได้ว่าชิ้นเดียวใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า 

    และน้ำยาทำความสะอาดต่างๆภายในห้องน้ำ

    นอกเหนือจากเม็ดสีสังเคราะห์และสารให้ความหวานเทียม Beaยังใช้เบกกิ้งโซดา + หญ้าหวานแทนยาสีฟันโดยการใช้น้ำมันมะพร้าวและผงเบกกิ้งโซดา ส่วนผสม 2: 1 จากนั้นเติมน้ำมันหอมระเหยสะระแหน่สัก2-3 เพื่อนำมาแปรงฟัน

    ส่วนผงโกโก้เป็นแป้งแต่งหน้าสีบรอนซ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุดซึ่ง Bea ใช้ในการเขียนคิ้ว

    เสื้อผ้า:

    เหลือเก็บไว้ 20% ก็เพียงพอ

    Bea รู้ "กฎสองในแปด" ในตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้า ส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่มักใส่มีแค่ 20% ส่วนที่เหลืออีก 80% ถูกแขวนทิ้งไว้แบบนี้

    เพื่อให้เสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าได้มีการปรับเปลี่ยนและใช้งาน เธอจะไม่มีเสื้อผ้าค้างสต๊อก โดยเธอจะนำเสื้อผ้าเก่าๆที่แน่ใจว่าไม่ใส่แล้วไปส่งให้โรงงานรีไซเคิลเสื้อผ้า หรือบริจาคต่อให้แก่คนที่ต้องการ

    เสื้อที่เธอใส่เป็นประจำก็จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ท่อนบน ท่อนล่าง เสื้อกันหนาว รองเท้า มีดังนี้

    Beaและสามีใช้ตู้เสื้อผ้าเดียวกัน ที่ผ่านไป 2 ปีครึ่งเธอซื้อเสื้อผ้าใหม่แค่ 1 ตัว และของมือสอง รองเท้าราคา 2.5 ดอลลาร์ (ราว 76 บาท) กระโปรงหนัง ราคา 5 ดอลลาร์ (ราว 153 บาท)

    เพื่อให้สามารถใส่เสื้อผ้าลงในกระเป๋าเดินทางได้ทั้งหมด เธอจึงต้องมีการจับคู่การแต่งตัว และยังจัดกิจกรรมตารางวางแผนการแต่งตัวใน 30 วันอีกด้วย โดยใช้เสื้อชุดเดิม    แต่มีการใส่ที่แตกต่างแวกแนว 30 แบบ 

    ส่วนลูกชายทั้งสองของเธอก็เช่นกัน ก็จะมีกระเป๋าเดินทางอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า และกล่องใส่รองเท้าฟุตบอลที่ขาดชำรุด ทันทีที่รองเท้าเต็มกระเป๋าก็จะนำรองเท้าไปให้ร้านค้าเพื่อทำการรีไซเคิ้ลต่อไป

    สุดท้ายขอสรุปว่าวิถีชีวิตที่ไร้ขยะพูดง่ายๆก็คือ พยายามลดขยะให้มากที่สุด โดยเฉพาะพลาสติก

    ครอบครัวนี้จะมีการแยกขยะอย่างชัดเจน และร้านขายอาหารที่ยุโรปจะมีแบบให้เติม เพื่อลดขยะ บางส่วนเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเช่น กระดาษชำระ สำลีผ้าฝ้ายและผ้าลินินผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ฯลฯ แปรงต่างๆสามารถนำไปเปลี่ยนใหม่ได้ตามเวลาที่กำหนด

    ส่วนเศษขยะจากเปลือกผลไม้ หรือขยะเปียกก็สามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยได้ เพราะในยุโรปตามห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมีการกำจัดเศษขยะเปียกได้ดีมาก

    และอีกสิ่งที่เป็นกังวลก็คือ เมื่อประจำเดือนมา ก็จะใช้ “ถ้วยใส่ประจำเดือน” แม้ว่าคนทั่วไปจะมองว่าแปลกประหลาดมาก แต่ครอบครัวปลอดขยะนี้มันไม่ใช่เครื่องแปลกอะไร

    Beaเล่าให้ฟังว่า ในปี 2016 พวกเขาต้องย้ายบ้าน เพื่อออกไปอยู่นอกเมืองอีกหน่อย แต่ในตอนนั้นยังหาบ้านไม่ได้จึงเช่าคอนโดเล็กๆอยู่ก่อน พวกเขาเอาไปแต่กระเป๋าเดินทางที่มีแต่ของใช้จำเป็น 20% แต่ในระหว่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรไปในชีวิตเลย ที่พูดถึงก็คือของใช้ภายในบ้านอีก 80%นั่นเอง

    Bea พูดเสมอว่า อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อไม่ต้องหามา และของที่จำเป็นก็ลดลงหน่อย ของอะไรที่ใช้ซ้ำได้ก็จงใช้ซ้ำอย่าใช้แค่ครั้งเดียว อะไรนำมาทำปุ๋ยได้ก็ทำ ทุกอย่างต้อง “ยืดหยัด”

    แม้ว่าชีวิตนี้จะทำเหมือนครอบครัวของBea แต่รู้สึกว่าชื่นชมพวกเขาจริงๆ ที่มีจิตใจอันมุ่งมั่นและแน่วแน่ในการปฏิบัติ และเข้าใจว่าตนเองต้องการอะไรในชีวิต เชื่อว่าครอบครัวนี้คงมีความสุขกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่

    สิ่งที่ดีอีกอย่างที่ตระหนักถึงคือไม่สร้างความเดือดร้อนให้สิ่งมีชีวิตในโลกด้วยการสร้างขยะ 

.

.

.

.

จนมาถึงปัจจุบัน พวกเราก็ยังเหมือนเดิม

    ชมคลิป

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา :funny

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความที่คุณอาจสนใจ