เด็กอุ้มผาง​ใจสู้! เดินขึ้นดอยหาสัญญาณ เพื่อเรียนออนไลน์ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร

คอมเมนต์:

มีเพียงเพิงเล็กๆ พอกันความร้อนจากแดด และป้องกันน้ำฝนยามที่ฝนตก แค่นี้ก็พอแล้วครับ/ค่ะ

   หลังจากที่เฟซบุ๊กที่ชื่อ Arda Kanokon นำภาพเด็กๆ ในหมู่บ้านอุ้มผางคี ห่างจากโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม ซึ่งตั้งอยู่ในตัว อ.อุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งอยู่บนยอดเขา ลำเนาไพร โดยเด็กๆ ต้องเรียนออนไลน์ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ซึ่งเด็กๆ ต้องเดินหาสัญญาณกันใหญ่เลย

    ผู้สื่อ chiangmainews ได้รายงาน  ซึ่งนำภาพและคลิปวีดีโอของเด็กๆ ที่หมู่บ้านอุ้มผางคี ซึ่งตั้งอยู่ค่อนไปทางทิศตะวันออกของตัว อ.อุ้มผาง จ.ตาก บริเวณโดยรอบประกอบไปด้วยหมู่บ้านของชนเผ่ามากมายหลายหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอ ที่ได้ดำรงชีวิตอยู่อาศัยกันมายาวนานหลายชั่วอายุคน มีวัฒนธรรมและภาษาเป็นของตนเอง 

 

Sponsored Ad

 

    หมู่บ้านอุ้มผางคี ห่างจากโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม ซึ่งตั้งอยู่ในตัว อ.อุ้มผาง จ.ตาก ราว 16 กิโลเมตร เด็กๆส่วนใหญ่ เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตาก เด็กบางคนเรียนอยู่หอพักนอน ไม่กลับไปยังหมู่บ้าน เพื่อที่จะได้เรียนออนไลน์ รับสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากโรงเรียน แต่เด็กๆในหมู่บ้านนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองไม่อยากให้ลูกเข้าไปอยู่ที่ตัวอำเภอ เนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัย และเพื่อความสบายใจของคนในหมู่บ้าน การอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร ห่างไกลเมืองแบบนี้ จะทำให้พ่อแม่รู้สึกสบายใจมากกว่า 

 

Sponsored Ad

 

    ทรงผลให้พวกเขาเหล่านี้ต้องเดินหาสัญญาณเพื่อเรียนออนไลน์ให้ทันเพื่อนคนอื่นๆ จึงทำให้เกิดภาพเหล่านี้ขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    เด็กๆ จึงต้องพากันเดินหาสัญญาณ เพื่อเรียนออนไลน์ให้ทันคนอื่น 

    นางฤทัยกัญญา ชูทอง ประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สพม.ตาก บอกว่า ในเรื่องขอองการจัดการเรียนการสอนนั้น คุณครูโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม ใช้วิธีการแจกใบงานในบางวิชา และการเรียนออนไลน์ผสมผสานการเรียนรู้ ทำให้ในทุกๆ วันจันทร์-วันศุกร์ เด็กๆ ในหมู่บ้าน จะรวมตัวกันเดินทางไปสู่ยอดเขาชื่อว่า “บอเหน่อแฉะเบล้อ” มีความหมายว่า กระทิงแทงปลวก ซึ่งเป็นจุดรับสัญญาณได้เพียงแห่งเดียวในหมู่บ้าน ใช้เวลาเดินระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อไปนั่งเรียนออนไลน์ที่นั่น 

 

Sponsored Ad

 

    มีเพิงเล็กๆ พอกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ และป้องกันน้ำฝนยามที่ฝนตก รวมทั้งร่วมกันช่วยเหลือการเรียน จากพี่ชั้นโตกว่า ก็ช่วยสอนน้องในชั้นเล็กกว่า ใครเข้าใจวิชาไหน ก็ช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกัน ช่วยกันอธิบายเรียนรู้ไปด้วยกัน จากนั้นเวลาเย็นก็รวมตัวกันเดินทางกลับมาสู่หมู่บ้าน

 

Sponsored Ad

 

    ช่วงการเรียนแบบนี้ เด็กๆ ได้เดินทางสัมผัสธรรมชาติ ที่สวยงาม และใช้ความพยายามและอุตสาหะในการเล่าเรียนศึกษาแต่ละวัน 

    สิ่งที่เด็กๆได้นอกจากวิชาความรู้นั้น ความรับผิดชอบ มีวินัย มีน้ำใจ อดทน และแบ่งปัน เด็กๆก็จะได้เรียนรู้ในชีวิตจริงไปด้วยกัน และนี่คือการเรียนออนไลน์ในยุควิกฤตเช่นนี้ จากยอดเขา ลำเนาไพรที่คนในเมืองไม่สามารถเข้าใจและสัมผัสได้ ว่ามันยากลำบากมากเพียงใด กว่าจะมีสัญญาณให้ได้ใช้เรียน

 

Sponsored Ad

 

.

    โพสต์ต้นฉบับของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Arda Kanokon ที่ระบุว่า "เช้าวันจันทร์ที่สดใสของเด็กๆ เดินขึ้นดอย 5 กิโลกว่าๆ กว่าจะได้เรียนเสียเหงื่อไปหลายหยด #แดดจะออกฝนจะตกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ยุงกัด 24 ชั่วโมง เด็กๆ สู้ๆ เขานะ"

Sponsored Ad

    มาดูว่าชาวเน็ตคิดอย่างไรบ้าง

    นี่แหละความจริงที่ผู้ใหญ่ต้องรู้และรีบแก้ไข

    ไม่ OK เลยนะที่ได้เห็นข่าวแบบนี้ ไม่สนับสนุนด้วย พวกเขาต้องดิ้นรน ลำบากเดิน 5 กิโลไปกลับ 10 กิโลไปเดินจริงมันไม่ชิวเหมือนภาพถ่ายหรอกนะ

    มันทำให้เห็นถึงการล้มเหลวของการศึกษาไทยค่ะ เด็กทุกคนควรเข้าถึงการศึกษาโดยไม่ต้องเดินขึ้นเขา 5 โล เพื่อเรียนออนไลน์

    ขอชื่นชมในความตั้งใจของครูและเด็กครับ ถ้าลำบากอาจปรับเปลี่ยนเป็นอัดคลิปสอนสลับบ้างน่าจะช่วยได้ ไม่มากก็น้อยสู้ๆ ครับ

    กว่าจะถึงก็เสียเหงื่อไปหลายหยดเหมือนกันนะ อนาคตที่ยิ่งใหญ่ต้องแลกมาด้วยความลำบาก และเรื่องราวระหว่างทางนั้น งดงามเสมอ อยากเป็นกำลังใจน้องๆ เหล่านี้สู้ๆ ต่อไปและหวังว่าจะมีหน่วยงานรัฐเข้าไปช่วยเหลือโดยด่วน อย่ามองข้ามเด็กเหล่านี้ ที่จะเป็นพลัง เป็นอนาคตของชาติ วันใดที่เขาประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศแล้วคุณจะรู้ว่า เด็กในวันนี้สำคัญต่อประเทศชาติมาก

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา: เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่,ภาพ:  facebook  Arda Kanokon

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ