ทำไมรักเราทั้งๆ ที่เราเดินไม่ได้? เบื้องหลังความรักของวีลแชร์หัวใจแกร่ง ที่พบรักกับหนุ่มหล่อแสนดี

คอมเมนต์:

เป็นคู่ที่น่ารักมากๆเลยค่ะ

    เรื่องราวความรักของคุณ ชมพู่ ภัทราวรรณ พานิชชา หรือ Miss Wheelchair Thailand 2012 ที่เธอได้เปิดใจให้กับทางสำนักข่าวของไทยรัฐออนไลน์ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องราวความรักอันหวานชื่นของเธอและแฟนหนุ่ม

    ขอเกริ่นสักนิดว่า ชมพู่ ภัทราวรรณ สาววีลแชร์หัวใจแกร่งปัจจุบันวัย 30 ปีผู้นี้ เคยประสบอุบัติเหตุรถสิบล้อชนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเธอเมื่อ 10 ปีก่อน เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้ร่างกายของเธอตั้งแต่สะโพกลงไปไร้ความรู้สึกและขยับเขยื้อนไม่ได้... (อ่านเพิ่มเติม : แม้สิ้นหวังกลับมาเดินไม่ได้ สู้สุดใจ มุ่งมั่นจนได้รับโอกาสเข้าทำงานเป็น "ผู้ประกาศข่าว" )

 

Sponsored Ad

 

    ชมพู่ ภัทราวรรณ ได้ย้อนเล่าให้ทีมข่าวฟังถึงที่มาที่ไปของการพบรักอันสวยงามของเธอว่า เธอและแฟนหนุ่มได้เจอกับผ่านเฟซบุ๊ก ตอนนั้นเธอได้ไปออกรายการทีวีรายหนึ่งหลังประสบอุบัติเหตุ เขาก็ทักมาให้ชื่นชมและให้กำลังใจเช่นเดียวกับคนอื่นๆ หลังจากนั้นก็ผ่านไป 6 เดือน เขาก็ทักมาอีกครั้ง และบอกว่า "ผมเห็นคุณเป็นพิธีกรอยู่ที่รายการหนึ่ง ตอนนี้คุณยังทำอยู่ไหม ออกอากาศวันไหนบ้างครับ ผมอยากติดตาม"

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็ทักมาจีบเรื่อยๆ ซึ่งใช้เวลาคุยกันประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ได้มีโอกาสไปทางข้าวและดูหนังด้วยกัน จนเวลาผ่านไป 1 เดือนก็ตัดสินใจคบกัน

    เธอยังเล่าให้ฟังอีกว่า ตั้งแต่วันแรกที่ฝ่ายมาจีบ จนวันที่ตัดสินใจเป็นแฟนกับเขา จนมาถึงทุกวันนี้ อยู่อย่างที่เขาทำหรือปฏิบัติกับเธอนั้นสม่ำเสมอเหมือนวันแรกที่เริ่มคุยกัน เวลาที่เรามีปัญหา หรือมีความทุกข์ แล้วเราอยากปรึกษาใครสักคน ผู้ชายคนอื่นจะบอกว่า สู้ๆนะ แต่ผู้ชายคนนี้ เขาจะรีบบอกกับเราเลยว่า มีอะไรให้เราช่วยมั้ย ถ้ามีรีบบอกเราเลยนะ ซึ่งเขาเห็นความทุกข์ของเรา เป็นความทุกข์ของเขาเหมือนกัน

 

Sponsored Ad

 

     “เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ชมพู่อยู่กรุงเทพฯ ส่วนเขาทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ราชบุรี ตั้งแต่คบกันมา 1 ปี ไม่มีอาทิตย์ไหนเลยที่เขาจะไม่มาหาชมพู่ เขามาหาอยู่ตลอด มาดูแล ถ้าเราบอกว่าเราป่วยอยู่นะ ไม่ว่าเวลานั้น จะเป็นกลางวัน หรือกลางคืน เขาก็จะขับรถมาจากราชบุรี เพื่อมาดูแลเรา พาเราไปหาหมอด้วยตัวเอง”

 

Sponsored Ad

 

    หากถามว่าเคยเจอพ่อแม่ฝ่ายชายแล้วหรือยัง เธอก็ได้บอกว่า ได้เจอกับแม่ของเขาแล้ว ซึ่งคุณแม่น่ารักมาก หากคุณแม่รู้ว่าเราป่วย เขาก็จะบอกกับลูกชายเขาว่า ให้รีบพาชมพู่ไปโรงพยาบาลเลย ซึ่งคุณแม่ของเขารักและเมตตาเราเป็นอย่างดี

    เธอยังบอกอีกว่า เธอเคยถามฝ่ายชายถึงความเห็นของพ่อแม่ด้วย ถามว่าทำไมถึงมารักเราทั้งๆ ที่เราเดินไม่ได้ ซึ่งเขาก็ตอบกับเรามาว่า มันไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เดินได้หรือเดินไม่ได้ เขาก็ดูแลได้ ชมพู่ก็เลยถามไปอีกว่า แล้วครอบครัวญาติพี่น้องไม่กลัวเขาว่าอะไรเหรอ ซึ่งฝ่ายชายได้ตอบว่า ตั้งแต่ที่เขามาคุยกับเรา เขาก็บอกแม่และญาติๆ เขาแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้มีที่มาที่ไปของชีวิตอย่างไรบ้าง ซึ่งแม่เขาก็ชื่นชมเราว่า เราเป็นคนเก่งนะ สู้ชีวิตนะ และที่บ้านของเขาก็เข้าใจในความรักของเราเป็นอย่างดี ไม่ได้ว่าอะไรเราทั้งสิ้น

 

Sponsored Ad

 

    ครั้งหนึ่งเธอก็เคยถามแฟนหนุ่มว่า รักเธอที่อะไร ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า ชอบเราที่เราเป็นคนเข้มแข็ง เราเป็นคนเฮฮา และมองโลกในแง่ดี ส่วนในเรื่องของอนาคตนั้นด้วยความที่ฝ่ายชายกำลังง่วนกับการทำธุรกิจ และต่างฝ่ายอาจจะยังไม่พร้อมด้วยกันทั้งคู่ จึงยังไม่มีแผนที่แต่งงาน หรือมีลูกด้วยกันฉะนั้น ตอนนี้ทั้งคู่จึงอยากใช้เวลาดูใจกันไปเรื่อยๆ ก่อน

 

Sponsored Ad

 

    เธอได้อัพเดตสารทุกข์สุกดิบอยู่บ่อยครั้ง และย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560  น้องชมพู่ได้โพสต์ข้อความหวานสุดซึ้ง ในเฟซบุ๊ก Pattarawan Panitcha เพื่อเล่าถึงความรักของเธอว่า "1 ปีแล้ว ที่มีผู้ชายคนนี้อยู่ข้างๆ รู้สึกโชคดีในทุกวันตั้งแต่มีเธอเข้ามาในชีวิต ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มหลายๆ อย่างในชีวิตเค้า ทั้งความรัก ความห่วงใย ใส่ใจ ดูแล ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักจนถึงวันนี้ เธอดีกับเค้าอย่างสม่ำเสมอ ไม่เคยลดลงเลย มีแต่ดีมากขึ้นทุกวัน" 

    ถึงแม้จะอยู่ห่างกันเกือบร้อยกิโล แต่ทุกครั้งที่เค้าป่วย(ซึ่งป่วยบ่อยมาก) เธอก็พร้อมที่จะขับรถมาหาและเป็นคนพาเค้าไปโรงพยาบาลเสมอ เคยถามเธอว่า ทำไมถึงมาจีบเค้าทั้งที่รู้ว่าเค้าเดินไม่ได้ เธอตอบว่า "ไม่ได้มองว่ามันเป็นสาระสำคัญอะไร จะเดินได้ หรือไม่ได้ เธอก็ดูแลได้" และเธอก็ทำให้รู้ว่าเธอดูแลเค้าได้จริงๆ และดูแลดีมากด้วย สิ่งที่จะตอบแทนก็คงเป็นความรัก ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ ที่จะมีให้เธอเสมอนะคะ"

Sponsored Ad

    และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอก็ได้อัปเดตชีวิตของเธอและแฟนหนุ่มเอาไว้ว่า.. " I'm gonna be right by your side, no matter what  ไม่ว่าจะกี่อุปสรรคที่เธอต้องเจอ จะมีเค้าคอยอยู่เคียงข้าง และเชื่อมั่นในตัวเธอเสมอ @Erth Nutnum"

    คู่รักคู่อื่นๆต้องดูเอาไว้เป็นแบบอย่างเลยนะคะ แม้จะมีระยะทางมาขวาง แต่ก็ไม่เคยทำให้หนุ่มข้างกายของน้องชมพู่ท้อถอย น่าชื่มชมสุดๆเลย และที่น่ายินดีกว่านั้น ทุกวันนี้ น้องชมพู่มีชายหนุ่มที่มีรักจริง มองข้ามอุปสรรคทางกาย เข้ามาเติมเต็มเป็นกำลังใจให้กันและกัน น่ารักสุดๆไปเลย 

.

ที่มา : Pattarawan Panitcha, ไทยรัฐ

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ