หวานไม่เปลี่ยนแปลง รักไม่เปลี่ยนไป หน่อย บุษกร และ เคน ธีรเดช ฉลองครบรอบแต่งงาน 11 ปี แนะเคล็ดลับชีวิตคู่ ยอมรับกันให้มากขึ้น มีความสุขมากขึ้น ถึงจะมีลูกแล้ว แต่สามี-ภรรยาต้องหาเวลาคุยกันสวีทกันบ้าง

        ในช่วงเดือนแห่งความรักนี้ เราได้เห็นภาพคู่รักแสดงความรักหวานซึ้งต่อกันเป็นจำนวนมาก ในวงการบันเทิงคู่รักหลายคู่ก็มีการทำเซอร์ไพร้ส์อย่างหวือหวาเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เชื่อเถอะว่าคู่รักหลายคู่ที่คนอิจฉาตาร้อนไม่ใช่เพราะความหวานเบอร์ใหญ่ แต่ว่าเป็นความรักที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาตลอด ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เช่นคู่นี้ หน่อย บุษกร และ  เคน ธีรเดช ที่เพิ่งได้ฉลองครบรอบแต่งงาน 11 ปีไปหมาดๆ

ยอมรับกันให้มากขึ้น มีความสุขมากขึ้น

        หนุ่มเคนเล่าให้ฟังว่าเขาและภรรยาใช้ชีวิตเหมือนเป็นเพื่อนกันมาตลอด สิ่งที่น้อยลงไปไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความคาดหวังที่มีต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะทำให้ทั้งคู่ยอมรับกันให้มากขึ้น นั่นจึงทำให้พวกเขามีความสุขมากขึ้นไปด้วย

        “ผมกับคุณหน่อยเราเหมือนเป็นเพื่อนกัน ความคาดหวังที่เรามีต่อกันมันน้อยลง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันทำให้เรายอมรับกันมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น อยู่กับความเป็นจริงมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น 

        คนเราเวลาคบกันก็มีความคาดหวังอยู่แล้ว พอแต่งงานก็ยิ่งคาดหวังว่าจะต้องเป็นแม่เป็นพ่อแบบนั้นแบบนี้ ความคาดหวังเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเกิดเรายึดติดกับการคาดหวังมากเกินไป สุดท้ายคนที่เป็นทุกข์ก็คือตัวเรา พอเราโตขึ้นความรักก็ต้องมีวุฒิภาวะ มีสติที่จะรักด้วย”

ถึงจะมีลูกแล้ว แต่ต้องหาเวลาคุยกัน สวีทกันบ้าง

        หลายคู่ยิ่งคบกันนานความรักก็ยิ่งจืดชืด แต่สำหรับบ้านนี้ไม่มีปัญหา เพราะหนุ่มเคนบอกว่าแม้จะมีลูกกันแล้ว แต่สามี-ภรรยาก็ต้องหาเวลาคุยกัน สวีทกันบ้าง

        “คือตอนนี้ไปไหนมาก็จะเป็นครอบครัว ต้องมีลูกอยู่ในนั้นตลอด ซึ่งมันก็ดี แต่มันก็ต้องมีบ้างที่เราไปทานข้าวกันสองคน เพราะบางทีถ้าเกิดเรามีอะไรที่จะคุยกัน ลูกอยู่ด้วยมันก็จะไม่ค่อยสะดวก เพราะว่าลูกจะชวนเราไปคุยเรื่องอื่น ต้องหาเวลาที่เราสองคนได้คุยกันได้พูดกันจริงๆ ส่วนจะสวีทหรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่ามันต้องมี คนเราพออยู่ด้วยกันไปนานๆ ทุกวัน ก็จะคิดว่าก็อยู่ด้วยกันทุกวันแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วได้มีการสื่อสารกัน เพราะบางทีเราก็ยุ่ง ดังนั้นเราต้องหาเวลาที่จะต้องสื่อสารกัน”

        สำหรับคู่รักคู่นี้คบกันมา 20 ปี และแต่งงานมา 11 ปี ซึ่งระยะเวลาที่ยาวนานขนาดนี้ พระเอกหนุ่มบอกว่าเขาแอบภูมิใจในความสัมพันธ์มากๆ

        ก่อนหน้านี้หนุ่มเคนได้ทุ่มเงินซื้อบ้านเนื้อที่กว่า 12 ไร่ ที่ฮอกไกโด เอาไว้ไปเที่ยวพักผ่อนเพื่อสัมผัสอากาศเย็นสบาย ไว้เป็นสถานที่หลบความวุ่นวายของเมืองหลวง ไปนอนพักชมธรรมชาติ ชาร์จพลังให้ตัวเอง แต่การจะมีบ้านพักตากอากาศที่ต่างประเทศดูเป็นเรื่องพิเศษอยู่พอสมควร

        “บ้านหลายหลังของครอบครัวเราต้องบอกว่ามาจากความไม่ตั้งใจค่ะ (หัวเราะ) โดยเรื่องบ้านทุกอย่างเคนจัดการหมด ทั้งดีไซน์ การออกแบบตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ต้องใช้คำว่าเคนชอบสร้างบ้านมาก เขามีความสุขเวลาได้ทำอะไรแบบนี้

        “สำหรับบ้านที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นช่วงที่ตั้งท้องน้องคุน (ลูกชายคนโต) เริ่มมาจากว่าหน่อยและเคนไปเที่ยวที่เมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด แล้วเคนชอบมาก เพราะเป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบ ผู้คนน่ารัก มีพื้นที่เกษตรกรรมเยอะ ทำให้ภาพวิวทิวทัศน์สวย แลนด์สเคปสวย เห็นทุ่งหญ้ากว้างสุดสายตา

        “ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงความฝัน ไม่ได้คิดว่าจะซื้อบ้านที่นั่นจริงๆ แต่พอลองหาข้อมูลก็เจอชื่อเมืองนิเซโกะเป็นลำดับต้นๆ ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อและเป็นเจ้าของที่ดินได้

        เคนจึงซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วบอกว่าไปดูของจริงกันเถอะ ซึ่งตอนนั้นหน่อยตั้งท้องน้องคุน 7 เดือนแล้ว ก็อุ้มท้องใหญ่ๆ นี่แหละค่ะไปเมืองนิเซโกะเพื่อไปดูบ้านกัน (ยิ้ม) เป็นบ้านทาวน์โฮม แต่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจนะคะ จนกลับมาเมืองไทยและหน่อยคลอดน้องคุน จึงได้รู้ว่าเคนตัดสินใจซื้อที่ดินที่นั่นไปแล้ว พอน้องคุน 2 ขวบกว่าๆ เคนก็พาครอบครัวมาที่บ้านหลังนี้กัน

        “เป็นบ้านแบบญี่ปุ่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ทุกอย่างกำลังพอดี ซึ่งเราก็ไปเที่ยวกันทุกปี ประมาณ 5 ปีความเจริญก็ขยับขยายมาถึง ทั้งคอนโดมิเนียม ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งสไตล์ของเคน ถ้าความเจริญมาถึงเมื่อไหร่ เขาจะหนี (หัวเราะ) จึงตัดสินใจขายทันที

        “จากนั้นก็เสิร์ชหาข้อมูลใหม่ จนเจอที่ดินเปล่าอยู่ไกลออกไปในเมืองเดิม เราตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ที่นั่น ซึ่งหลังนี้เคนออกแบบเอง ร่วมกับสถาปนิกชาวญี่ปุ่น เป็นบ้านชั้นเดียวที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่น

        ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวีย คล้ายๆ บ้านที่เขาใหญ่ของเราค่ะ แต่หลังนี้ใช้เวลาสร้างไม่นาน ประมาณ 8 เดือน ไปนานตรงช่วงตกแต่ง เนื่องจากเคนใส่ใจรายละเอียด เขามีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของดีไซเนอร์ญี่ปุ่นที่ถูกใจอยู่ที่โอซาก้า จึงต้องใช้เวลาขนย้ายเฟอร์นิเจอร์จากโอซาก้ามา

        “หลังนี้เราไปเที่ยวกันทุกปี ปีละ 2-3 ครั้ง เพราะแต่ละฤดูบรรยากาศไม่เหมือนกัน อย่างช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาวที่มีหิมะให้เด็กๆ เล่นสกี หรือฤดูร้อนที่ผู้คนนิยมปั่นจักรยานเล่นกัน

        เคนชอบพาลูกๆ เดินขึ้นเขาหรือไปเก็บผลไม้ ซึ่งตอนแรกที่ไป หน่อยก็เหงาเหมือนกันนะคะ ได้แต่นั่งดูลูกๆ เล่นสกี แต่ตอนนี้หัดเล่นเป็นแล้วค่ะ จึงมีกิจกรรมให้ทำเยอะขึ้น (ยิ้ม)

        “นอกจากนั้นก็ไว้ต้อนรับสมาชิกกลุ่มเพื่อน อย่างปีก่อนอนันดา เอเวอริ่งแฮม กับหลุยส์ สก๊อต ก็แวะไป ทุกคนจะเรียกเคนว่า ‘อบต. ประจำนิเซโกะ’ (หัวเราะ) เพราะเขารู้ทุกอย่าง ทุกมุม แนะนำได้หมด

        “บ้านทุกหลังของครอบครัวเป็นสถานที่พิเศษของทุกคน เป็นที่ที่เราได้สร้างช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกัน และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป เนื่องจากแต่ละหลังอยู่ต่างที่ ต่างบรรยากาศ และทุกครั้งที่เราไปเที่ยวด้วยกัน ก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีต เช่น ตอนที่มาดูที่ดินกับเคน ตอนพาลูกๆ มาเที่ยวครั้งแรก หรือตอนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้”

.

.

.

.

.

อ่านข่าวเพิ่มเติม :

        เปิดบ้านหรู 'เคน ธีรเดช' ที่ญี่ปุ่น ราคาเป็นสิบล้าน พร้อมพาภรรยา และลูกบินไปพักผ่อน!

        ภาพถ่าย ภรรยา-ลูกๆ จากกล้องฟิล์ม ฝีมือคุณพ่อ "เคน" สวยคลาสสิก เหมือนหลุดมาจากยุคก่อน

ข้อมูลและภาพ จาก praew