เธอเผยวิธีครองรักให้นาน "รอสามีกลับบ้านทุกวัน" แม้จะมีลูก 3 คนก็ยังหวานได้อีก!!

คอมเมนต์:

สุดยอดเลย นับถือจริงๆ ทัศนคติแบบนี้!!

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า ติง หนิง นักแสดงหญิงชาวไต้หวันวัย 49 ปี ที่แสดงบทเมียหลวงในละครหลังข่าวภาคค่ำที่กำลังฉายนี้ จนหลายต่อหลายคนบอกว่าเธอแสดงได้ดียอดเยี่ยมมาก

    ที่จริงเธอเป็นคุณแม่ลูก 3 แต่งงานกับสามีชาวอเมริกันมานานกว่า 10 ปี เธอเปิดเผยว่า ตนเองใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูแลลูก แต่ปัจจุบันเริ่มกังวลเกี่ยวกับเวลาในการปฏิสัมพันธ์และการเข้ากันมากขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    ตามรายงานข่าวท้องถิ่นกล่าวว่า เธอคิดว่าตนเองมีความมั่นคง อดทนและการเห็นอกเห็นใจกัน แต่ทว่าตั้งแต่เธอมีลูกก็มีความรู้สึกที่เปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เริ่มจากการชีวิตการเลี้ยงดูลูกเป็นประสบการณ์ที่ได้ทำให้ตระหนักว่า “ความอดทนและความเข้าอกเข้าใจในอดีตนั้น ไม่มีอะไรเลย แม้ว่าการเลี้ยงดูเด็กจะเหนื่อยมาก แต่ก็ได้ให้บทเรียนมากมายแก่เธอ"

    เมื่อพูดถึงลูกทั้งสามคน เธอบอกว่า ถึงแม้บุคลิกของพวกเขาจะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งเดี่ยวที่เหมือนกันคือ  "ความซุกซน" เธอก็เปิดเผยวิธีการเลี้ยงดูลูกให้ฟังว่า ลูกคนที่สอง เป็นผู้ชายชื่อ Ashe อยู่ในช่วงที่มีชีวิตชีวาและมีความกระตือรือร้นมาก ทำให้ต้องเข้มงวดกับคนนี้มากหน่อย

 

Sponsored Ad

 

    ส่วนลูกชายคนเล็ก Amari มีอยู่วันหนึ่งก็แอบหนีออกจากเปลของตนเอง ทำให้เธอต้องเตรียมตัวเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของลูกชายคนเล็กอีกด้วย


    ส่วนความสัมพันธ์กับคุณสามี ในช่วงแรกที่มีลูกคนแรก เธอจะทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่กับลูก อย่างไรก็ตามเธอและสามีมีความเห็นพ้องต้องกันว่า "การปลูกฝังลูกนั้นเป็นหน้าที่ที่แบ่งออกเป็นระยะ พวกเขาไม่ใช้เวลา กำลังและความรู้สึกทั้งหมดไปกับการเลี้ยงลูก ไม่เช่นนั้นจะเหนื่อยมาก และจะสูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน"

 

Sponsored Ad

 

     ดังนั้นในทุกๆวันเธอจะรอสามีเลิกงานกลับบ้าน ดื่มและพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันด้วยกัน และในแต่ละเดือนจะต้องหาเวลาออกไปสวีทหวานกัน 2 ต่อ 2  เช่น หาเวลาไปดูภาพยนตร์,ดินเนอร์ด้วยกัน ใช้ชีวิตโลกส่วนตัวของทั้งสองด้วยกัน และบางครั้งยังจัดทริปออกไปเที่ยวนอกสถานที่ด้วยกันบ้าง เพื่อเติมเต็มและเสริมสร้างความสัมพันธ์สมรส

    สุดท้าย ติงหนิงก็ได้แบ่งปันประสบการณ์ของตนเองกับเพื่อนว่า “ไม่จำเป็นต้องเอาเด็กๆ มาทำลายความสัมพันธ์ของคู่รัก หรือวางแผนแทนเด็กๆ มากมาย เพราะว่า เด็กๆจะเติบโตตามธรรมชาติ ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันนั้น เขาก็จะเรียนรู้จักปรับตัวให้เข้ากับทุกๆสถานการณ์เอง นั้นจะทำให้เขาเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด”

ที่มา:nowlooker

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ