"กะหล่ำดาว" ผักจิ๋วแต่ประโยชน์แจ๋วสุดๆ ลดอาการคลอดก่อนกำหนด ช่วยให้มีลูกง่าย

คอมเมนต์:

เห็นสรรพคุณแล้วอยากกินเลยเนี่ย

    สำหรับคนที่ชอบกินผักวันนี้แอดมินมีผักน่ารักชนิดหนึ่งมาฝาก ผักชนิดนี้มีทั้งดอกใหญ่และดอกเล็ก คนส่วนใหญ่มักเห็นตามร้านอาหารต่างๆ นำดอกใหญ่ไปปรุงอาหาร ผักชนิดนี้มีชื่อว่า "กะหล่ำดาว" เป็นกะหล่ำไซส์จิ๋ว รสชาติหวาน แถมมีคุณประโยชน์มากมาย

    กะหล่ำดาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Brussels Sprouts เป็นผักชนิดหนึ่งในกลุ่มกะหล่ำเป็นไม้ล้มลุกสองปี ลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 1 เมตร ไม่แตกกิ่ง มีตาข้างจำนวนมากเจริญเป็นปลี ลักษณะคล้ายกะหล่ำปลีหัวเล็ก ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-3 เซนติเมตร มีขนาดพอดีคำจึงได้รับความนิยมในหลายประเทศแถบยุโรป

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งจะมีลักษณะเป็นกะหล่ำปลี แต่เล็ก และออกดอกกะหล่ำรอบลำต้น จำนวนมากมาย จึงดูลักษณะคล้ายดวงดาว จึงเรียกกันว่า กะหล่ำดาว สายพันธุ์จะนำเข้ามาจากต่างประเทศ ที่นิยมนำเข้ามาจะมาจาก อเมริกา ส่วนที่อื่นๆ จะนำมาจากยุโรป ฮอลแลนด์ ฮ่องกง จีน และในประเทศไทยปลูกมากที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นิยมนำไปปรุงอาหารประเภทผัดน้ำมันหอย มีรสชาดหวาน กรอบ กลิ่นแบบกะหล่ำ มีสีเขียว และสีม่วง

 

Sponsored Ad

 

    การเตรียมปลูก, การปลูกและการดูแลรักษากะหล่ำดาว
    กะหล่ำดาวชอบดินร่วน ดินผสมปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ที่สามารถระบายน้ำที่ดี ชอบอากาศหนาว จึงนิยมปลูกในช่วงเดือน ตุลาคมเป็นต้นไป เพื่อให้ได้ผลผลิตดี แต่การปลูกนอกฤดู หรือพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่หนาวเย็น ก็สามารถให้ผลผลิตได้ แต่อาจไม่ดกและไม่แน่นเท่าฤดูหนาว การปลูก เช่นเดียวกับกะหล่ำปลี หรือคะน้า การให้ปุ๋ยไนโตรเจนในระยะเริ่มแรกต้องระวังให้ดี เพราะหากให้ปุ๋ยไนโตรเจนในช่วงดังกล่าวมากเกินไปจะทำให้ได้ Sprouts น้อย

    วิธีปลูกและดูแลรักษากะหล่ำดาวนั้นเหมือนกับวิธีปลูกกะหล่ำปลี และค้า นิยมปลูกปลายฤดูฝน ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นกล้าไป การปลูกให้หว่านเมล็ดลงถาดเพาะเมล็ด ใช้เวลาประมาณ 25 วัน จึงสามารถแยกต้นกล้า แล้วนำลงปลูกในแปลงผัก ปลูกต่อไปอีก 3 เดือน ก็จะเริ่มให้ผลผลิต แต่ใช้ระยะห่างในการปลูกระหว่างต้นอยู่ที่ 30-60 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยสูตรสม่ำเสมอ หรือปุ๋ยคอกปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยอินทรีย์นาโน

 

Sponsored Ad

 

    การเก็บเกี่ยวกะหล่ำดาว
    กะหล่ำดาวมักจะเก็บเกี่ยวกับตอนที่ปลีห่อหัวเต็มที่ การห่อของปลีมักจะห่อแต่ปลีล่างๆ ก่อน ดังนั้นควรทยอยเก็บเกี่ยวโดยให้ทยอยกันเก็บประมาณ 3-5 ครั้ง โดยไล่เก็บจากปลีล่างขึ้นมาและควรระวังระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวให้ดี เพราะหากทิ้งไว้นานปลีล่างมักแก่เกินไป และในการเก็บกะหล่ำดาวมักจะนิยมเด็ดยอดออกก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 เดือน 1 ต้น สามารถให้ผลผลิตได้ 3-5 กิโลกรัม

 

Sponsored Ad

 

    ประโยชน์ของกะหล่ำดา

    1.มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง สารต่อต้านอนุมูลอิสระ 

    2.มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันไข้หวัด และช่วยบำรุงผิวพรรณ

    3.บำรุงสายตา อุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีนซึ่งมีประโยชน์ต่อดวงตา ช่วยป้องกันความเสียหายของจอประสาทตา จึงช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ

    4.ช่วยทำให้ขับถ่ายได้ดี กะหล่ำดาวมีไฟเบอร์สูงจึงช่วยกระตุ้นลำไส้ทำให้กากอาหารนุ่มลง ระบบขับถ่ายดีขึ้น แก้อาการท้องผูกได้ดี

    5.บำรุงครรภ์ กะหล่ำดาวอุดมไปด้วยโฟเลตซึ่งจะช่วยบำรุงครรภ์ ลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด อีกทั้งยังช่วยให้มีลูกง่ายขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    6.ปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย กะหล่ำดาวยังอุดมไปด้วยสารไฟโตนิวเทรียนที่ชื่อได-อินโดลิลมีเธน (Diindolylmethane) ช่วยรักษาสมดุลของเอสโตรเจนในผู้หญิงให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

    7.ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร กะหล่ำดาวมีสารที่ชื่อว่า เอส มีไทล์เมทิโอนีน (s-methylmethionine) ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากแผลในกระเพาะอาหาร

    8.เป็นแหล่งวิตามินเอ ในกะหล่ำดาว 100 กรัม ให้ให้วิตามินเอถึง 754 IU ช่วยในการมองเห็นและบำรุงสายตาให้มีสุขภาพดี อีกทั้งลดอาการปวดล้าดวงตาจากการใช้คอมพิวเตอร์และมือถือเป็นเวลานานๆ

 

Sponsored Ad

 

    9.วิตามินเคสูง กะหล่ำดาวเป็นหนึ่งในผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเค ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ไม่เปาะและหักง่าย อีกทั้งยังช่วยป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุดอีกด้วย

    คุณค่าทางโภชนาการของ กะหล่ำดาว 100 กรัม

Sponsored Ad

    ให้พลังงาน 43 กิโลแคลอรี
    ไฟเบอร์ 3.80 กรัม
    วิตามินบี1 0.139 มิลลิกรัม
    วิตามินบี2 0.90 มิลลิกรัม
    วิตามินบี3 0.745 มิลลิกรัม
    วิตามินบี5 0.309 มิลลิกรัม
    วิตามินบี6 0.219 มิลลิกรัม
    วิตามินเอ 754 IU
    วิตามินซี 85 มิลลิกรัม
    วิตามินเค 177 ไมโครกรัม
    แคลเซียม 42 มิลลิกรัม
    โฟเลท 61 ไมโครกรัม
    ธาตุเหล็ก 1.40 มิลลิกรัม
    แมกนีเซียม 23 มิลลิกรัม
    ฟอสฟอรัส 69 มิลลิกรัม
    โพแทสเซียม 389 มิลลิกรัม
    สังกะสี 3.12 มิลลิกรัม
    บีตา-แคโรทีน 450 ไมโครกรัม
    ลูทีน-ซีแซนทีน 1,590 ไมโครกรัม
    อ้างอิงจาก USDA National Nutrient data base

.

.

ที่มา : FB กะหล่ำดาว, mthai