วินาทีกินใจ! แม่-ลูกร่ำไห้โผกอดกันที่ รพ. หลังแม่ความจำเสื่อม หายจากเชียงรายนาน 8 เดือน!
คอมเมนต์:
หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ
ตื้นตันใจทั้งเจ้าหน้าที่ไทยและจีน วินาทีแม่กับลูกสาวที่พลัดพรากจากกันนาน 8 เดือน โผเข้าสวมกอดกันก่อนร่ำไห้ เตรียมบินกลับถึงบ้านเร็วๆ นี้
จากกรณีนางสุชาดา อาจอ อายุ 35 ปี ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย ว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และอัลไซเมอร์ ได้หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอย ทางเจ้าหน้าที่มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามหาตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานไปยังสถานกงสุลไทย ณ นครคุนหมิง ประเทศจีน อีกด้วยนั้น
Sponsored Ad
ล่าสุด รายการตีข่าวเช้า ช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจจีนเจอแม่ของนางสุชาดาแล้ว โดยพบขณะกำลังเดินอยู่ริมถนนอาร์สามเอ ห่างจาก จ.เชียงราย ไปราว 600 กิโลเมตร ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบพบบัตรประจำตัวประชาชนของประเทศไทย จึงได้แจ้งไปยังสถานกงสุลไทย ณ นครคุนหมิง และนำตัวแม่ของนางสุชาดาส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช
ทั้งนี้ จากการสอบถามประวัตินางสุชาดา ทราบว่า เป็นแคดดี้อยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะไปรับตัวแม่ได้ ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่าย และได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกหนังสือเดินทางให้ ทำให้นางสุชาดาได้ไปรับแม่ด้วยตัวเองในที่สุด
Sponsored Ad
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
ขณะที่ทางด้านมูลนิธิกระจกเงา เล็งเห็นความสำคัญของผู้ที่เสี่ยงสูญหาย เช่น ผู้ป่วยจิตเวช และผู้สูงอายุที่มีอาการหลงลืม เป็นต้น จึงได้พัฒนาสายรัดข้อมือที่มีคิวอาร์โค้ดและเลขรหัส สัญลักษณ์รูปหัวใจ ภายใต้โครงการ "หาย (ไม่) ห่วง" ซึ่งจะให้สวมใส่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงดังกล่าว เมื่อมีพลเมืองดีพบเห็นก็ใช้โทรศัพท์มือถือสแกนและส่งข้อมูลเพื่อแจ้งเบาะแสได้ทันที
Sponsored Ad
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
Sponsored Ad
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
พล.ต.ต.พงค์อนันต์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่า นางแก้วมณีได้เดินเท้าลัดเลาะไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไปพบดังกล่าว ไม่ได้ขึ้นเรือหรือโดยสารรถประจำทางไปแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังไม่สามารถให้ข้อมูลเนื่องจากอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและอัลไซเมอร์ ทำให้ต้องค่อยๆไล่เรียงลำดับเหตุการณ์
ชมคลิป...
คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<
ข้อมูลและภาพจาก dailynews ,รายการตีข่าวเช้า